Page 180 - The 10th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 180
ู
ั
้
ึ
้
ี
้
่
ึ
ู
ิ
้
ั
ี
ั
ื
ิ
ดาน อกดานหนงใชตเสือผากนแทนผนง เหนอหนาตางบานคเจาะชองแสงตดกระจกใส โครงสรางหลังคาใชวธตอดงขนจากไม
ํ
ั
ํ
คานอะเสเพอรบอกไก โครงหลังคาเปนทรงจวแฝดเชอมติดกนดวยรางน้าสังกะสี มงหลังคาสังกะสี ทาชายคายนออกไปในทศ
ื
ั
ุ
่
่
ั
ื
่
ิ
ื
่
ั
เหนอและทศตะวนตก
ื
ิ
่
ู
ู
้
ี
ี
ื
ึ
รปท 10 การศกษาโครงสรางและวสดุเรอนแฝดในหมบานขเหล็กใหญ
ั
ิ
ั
่
ี
ทมา: ผวจย (2562)
ู
ั
่
ิ
ุ
ี
่
ี
้
จากรปท 11 เปรยบเทยบกจกรรม พฤตกรรมในพนทใชสอยเรือนแฝดในอดต-ปจจบน พบวาลักษณะการใชงาน
ิ
ื
ี
ี
ู
ี
่
ี
ิ
ุ
พนทบางสวนมความเปลียนแปลงไปจากเดม พนทใตถนแนวเสา ก-ง ทางทิศใตของเรือน เดมมผนงกนใชเปนหองสําหรบ
้
ื
ื
้
ั
ั
้
ิ
ี
ี
ั
่
ี
่
ั
ั
่
ื
นงเลนในชวงกลางวนและเปนพนทยายใชทางานทอผา แตปจจบนยายเสียชวตไปแลวและลูกสาวตองการปลกเรอนใหม จงรอ
ํ
ู
้
ึ
ั
ิ
ุ
้
ื
ี
่
ี
ื
ึ
่
ั
ื
ผนงเรอนในสวนนไปเพอกอสรางเรอนใหม ซงอยหางจากเรอนเดิมไปทางทศใตหรอดานหลังของเรือน หางไปราว 10 เมตร
ู
ื
ี
ื
้
ิ
่
ื
ื
็
่
ุ
ื
ุ
ี
่
ู
้
ื
้
ทาใหบนไดทางขึนเรอนในสวนนถกปดตาย พนทใตถนเปดโลงใชเปนทจอดรถและเกบเครืองมออปกรณการเกษตร ลักษณะ
ํ
ั
ี
ื
้
ี
่
่
ี
้
ึ
ื
ิ
ิ
ี
้
ํ
ี
่
่
ื
้
ิ
การใชงานพนทบนเรอนบางสวนมความเปลียนแปลงไปจากเดม ไดแก บรเวณฮานแองนา และสวนทตอเตมขนมาเปน
หองนอนหลาน เปนตน
ี
่
ิ
ู
ี
รปท 11 ตวอยางการเปรียบเทยบกจกรรม พฤตกรรมในพนทใชสอยเรือนแฝดในอดต-ปจจบน
ื
้
ี
่
ิ
ี
ั
ุ
ั
่
ู
ี
ทมา: ผวจย (2562)
ิ
ั
4.3 เรอนเหยา
ื
เรือนเหยาทพบในหมบานขเหล็กใหญ เปนกลุมเรอนซงเปนญาตพนองกนทงหมด เดมเรอนเหลานเคยตงอยท ี ่
ู
ี
่
้
้
ั
ั
ี
ิ
ั
้
ื
ี
ู
้
ี
่
ึ
ื
่
ิ
ึ
่
ั
ื
ุ
ั
้
ื
ั
้
ี
ื
จงหวดอดรธาน กอสรางเรอนเมอประมาณ พ.ศ. 2527-2532 จากนนราวป พ.ศ. 2533 จงรอไมเรอนทงหมดมาประกอบ
้
ั
ื
่
ื
ู
ั
ี
้
้
ึ
ี
ื
่
ึ
่
ี
้
ั
ั
ู
ิ
กอสรางขนใหมทีหมบานขเหล็กใหญ จงหวดบงกาฬ น เพอมาประกอบอาชีพ โดยแตเดมอาศัยรวมกนอยทเรอนเกยหลังใหญ
ื
ื
ื
่
่
ึ
่
ี
เมอแตงงานออกเรอนจงตองแยกเรอนตามความเชอของชาวอสานทีวา “คะลํา นาสองเหมองเมองสองกาวเหยาสองเขย”
ื
ื
ื
เขยอยเรอนเดยวกนจะไมด จะเกดคะลําหรออปมงคลนันเอง โดยกลุมเรอนนม 2 หลังทไมมผูอาศย จงเกบขอมลไดเพยง 2
ู
ื
ั
ี
ี
ู
ี
ี
้
ื
ี
ี
่
ั
ึ
ิ
ื
็
ี
่
ั
หลังทเหลือ
่
ี
171