Page 19 - The 10th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 19
ิ
้
ึ
การศกษาสภาวะความชืนภายในบานดน
์
ั
ิ
ุ
ั
กรณศกษา: อาคารหอประชุมศภสวสด จงหวดนครนายก
ั
ึ
ี
A Study of Humidity in Earth House
Case Study: Supsawad Auditorium, Nakhon Nayok
2
1
ั
ิ
อทธศกด ขวญบญจนทร ศทธา ศรเผดจ
ี
็
ิ
ุ
์
ุ
ั
ั
ิ
บทคัดยอ
ี
่
่
ุ
ปจจบนผคนใหความสนใจในการสรางบานดนเพออยอาศยมากขนเพราะบานดนเปนสถาปตยกรรมทใชงบประมาณ
ู
ึ
ิ
้
ั
ื
ู
ั
ิ
ู
ี
ั
่
้
ั
ั
่
ั
ู
ู
ในการกอสรางนอยสามารถใชวสดกบแรงงานภายในพืนทไดและผูอยอาศยยงรสึกอยแลวสบายเนืองจากผนังของบานดนม
ุ
ิ
ี
่
ี
ี
ื
่
่
้
ี
ั
้
ั
่
ื
การปองกนความรอนไดด แตยงมสิงทีเปนปญหาหลักของบานดิน คอ ความชืน ซงสิงทความชืนสงผลกระทบตออาคาร คอ
ึ
่
ั
ึ
่
ุ
ั
้
ื
ิ
การเสือมของผนงอาคารการสึกกรอนหลุดรอนของผนงและการเกดเชอรา จงเปนปญหาทีตองหาแนวทางการปรบปรงตอไป
ั
่
ี
ึ
ั
ิ
่
ํ
ู
งานวจยฉบับนไดทาการศกษาถงสภาวะความชนทเกดภายในบานดน จากการเกบขอมลอาคารกรณีศกษา อาคารหอประชม
้
ื
ิ
็
ึ
้
ุ
ิ
ี
ึ
ั
ี
ุ
้
ิ
ั
ั
ั
ศภสวสด จงหวดนครนายกพบวา ผนงอาคารมการสึกกรอนแตกราว หลุดรวงเปนฝุนผงกับการเกดเชือราบรเวณฐานราก
ิ
ิ
์
ั
ี
อาคารและผนงอาคารทระดบความสูงจากระดบพนตากวา 40 เซนตเมตร ลงไป จงทาการสํารวจปริมาณความชนในสวนตาง
ึ
ั
ั
่
่
ิ
ื
้
ํ
ื
้
ํ
้
ๆ ของอาคารเพือวเคราะหถงลกษณะความชนกบลักษณะการผุพงของอาคาร โดยมีการกาหนดจดวดคาอณหภมและความชืน
ั
ิ
ึ
ั
ํ
ั
ู
ุ
่
ื
ั
ุ
้
ิ
้
ุ
ึ
่
ุ
ั
่
ู
ู
เริมจากจดทหนงวดคาอณหภมิและความชนของอากาศภายนอกอาคาร จดทสองวดอณหภมและความชนของอากาศภายใน
ุ
ุ
่
ี
ั
่
ื
้
ิ
ี
ื
่
ุ
้
ู
ื
ิ
ี
ื
ิ
้
่
ื
ั
ุ
่
ี
อาคาร โดยแบงเปน 3 ระดบความสูงทีบรเวณกลางหอง จดทสามวัดอณหภมและความชนของอากาศทระดับเหนอพนหอง
ิ
ั
่
่
ิ
่
ู
ั
่
ี
ุ
เล็กนอย โดยแบงเปน 3 ระดบความสูงทบรเวณกลางหอง จดทสีวดอุณหภมและความชืนของอากาศทีรมผนงหอง โดย
้
ี
ั
ิ
แบงเปน 3 ระดับความสูงทบรเวณริมผนังดานทศตะวนตกเฉยงใต จดทหาวดอณหภมพนผิวของพืนและผนงดานทศตะวนตก
ั
้
ื
ุ
ิ
ู
ิ
ั
่
ุ
ิ
ี
้
่
ี
ี
ั
ิ
ั
เฉยงใต
ี
่
ื
จากการสํารวจอาคารพบวาคาความชนมการสะสมอยูภายในอาคาร เนองจากมการระบายอากาศของอาคารไดนอย
้
ี
ี
ื
ความเร็วลมภายในอาคารต่ากวา 1 เมตรตอวนาท ทาใหอาคารมีความชืนสงเกน 60% ตลอดทังวน สังเกตไดวาเมืออุณหภมิสูง
ู
ํ
ิ
ํ
้
ู
่
ี
ั
ิ
้
้
ี
ํ
่
ั
ื
่
ั
ํ
ื
ั
้
ความชนจะมีคาตา จากการเปรียบเทียบคาของความชนกบระดบความสูงของตาแหนงททาการวดจะเห็นวาคาความชนจะมีคา
ํ
ื
้
ุ
ี
ั
ํ
่
ื
่
่
ี
ุ
สูงในระดับความสูงทตาในทกจดททาการวด จากการศกษาสามารถนําไปใชเปนแนวทางปรบปรงและออกแบบเพอลดโอกาส
ํ
่
ุ
ั
ึ
ในการเสือมสภาพของอาคารบานดนในตอไป
่
ิ
ั
ุ
คาสาคญ: การหลุดรอนของผนงดน บานดน อาคารหอประชมศภสวสดิ สภาวะความชืน
์
ํ
ํ
ั
ิ
้
ั
ิ
ุ
Abstract
At present, people are more interested in building an earth house to live in because the earth
house is an architecture that uses less construction budget and materials and local workers can be used.
In addition, the residents are comfortable to live in because the walls of the house have good heat
protection but there is still some drawback which is humidity. It affects the building, which is the
deterioration of the building wall, wear, and tear of the walls, and the occurrence of mold, and this is
a problem that needs to be improved. This study examined the earth moisture content in the earth
house by collecting data from Supasawad Auditorium, Nakhon Nayok. It was found that the walls were
worn and cracked. The wall dust was dropped and there was mold occurred at the building’s foundation
1 หลกสตรสถาปตยกรรมศาสตรมหาบณฑต สาขาวิชาสถาปตยกรรมเขตรอน คณะสถาปตยกรรมศาสตร สถาบนเทคโนโลยีพระจอมเกลา-
ั
ั
ู
ิ
ั
ุ
เจาคณทหารลาดกระบัง
2 ภาควิชาสถาปตยกรรมและการวางแผน คณะสถาปตยกรรมศาสตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลาเจาคณทหารลาดกระบัง
ุ
10