Page 196 - The 10th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 196
ื
้
3.2 ความตองการในการใชพนท
่
ี
ั
้
้
ั
ื
่
ุ
โดยแบงออกเปน 2 กลุม ไดแก พนทภายในหองพกและพนทสาธารณะ มนษยกบความตองการใชพนท ี ่
ี
ี
่
้
ื
ื
ั
ู
ี
ื
มนษยถอไดวามความซบซอน ดาเนนชวตภายใตกรอบ และวฒนธรรม สังคม และอยภายใตเงอนไขของพืนทและเวลาเปน
ี
ํ
ั
ิ
้
ื
่
่
ุ
ิ
ี
้
ื
้
่
ี
ึ
ิ
ตวกาหนด (Space and Time) จงทําใหเกดการเปลียนแปลงตอพนท (นราธร สายเส็ง, 2560) โดยมความตองการพนฐาน
ี
่
ั
ํ
ื
ิ
ั
ดงตอไปน 1) ความตองการทางดานกายภาพ (Physiological Needs) 2) ความตองการดานจตวทยา (Shychological
ิ
ี
้
Needs) 3) ความตองการทางดานสังคม (Social Needs)
้
ํ
้
ึ
่
ื
ั
ั
ื
่
ั
1. ความตองการพนทภายในหองพก ซงมมาตรฐานแฟลต ดงน หองนอน หองนา หองครว หองโถง หรอ
้
ี
ี
ี
ิ
ั
็
หองรบแขก (กระทรวงกฎหมาย ฉบบท 55, 2543) หากมีการออกแบบไดอยางเหมาะสมตอพฤติกรรม กจกรรม กจะสงผล
ี
่
ั
ั
ู
ั
ตอตวผูอยอาศย เชน หองนอนทตองการความเปนสวนตว พนทรบประทานอาหารท่สามารถรองรับกบจานวนสมาชิก (ลาวล
ี
ี
่
ั
่
ี
ั
ั
ื
ํ
ั
้
่
่
ี
ื
่
ุ
ั
ั
้
ื
ิ
จลภลลภ, 2554) หรอแมแตหองโถงทีสามารถรองรบบคคลภายนอกและยงรวมถึงการลดทอนพนทสวนกลางและเพมขนาด
ั
ุ
ึ
้
หองนอน (พงศธร รตนประทป, 2552) หองนอนควรมขนาดทสามารถรองรบกลุมคนไดมากกวา 2 คนขนไปและยงตองให
ั
ั
ี
่
ี
ั
ี
ี
ี
ี
ี
่
ิ
ํ
้
ั
่
ั
ื
ความสําคญเนองดวยความเปนสวนตว (ศศภา โรจนวรสิงค, 2554) โดยหองครัวทมขนาด 1.85 x 2.75 เมตร หองนามขนาด
ิ
1.50 x 2.75 เมตร ควรเพมขนาดพนทหองครว ทงนยงมความตองการดานจตวทยานน คอ ไมออกแบบเพือตอบสนองตอ
ั
่
ั
ี
ี
้
้
ี
ิ
ิ
่
่
ื
ั
ั
้
่
ื
ึ
ุ
ั
ํ
กจกรรมอยางเดยวยงตองคานงถงความสวยงาม (ลาวณย จลพลลภ, 2545) หองพกตองแสดงถึงความโอโถง สวยงาม ดงนน
ั
ี
ึ
ั
ั
ั
ั
้
ิ
้
ั
การออกแบบควรใหความสําคญทง 2 อยางพรอมกนไมวาจะเปน การตอบสนองตอการใชงาน และตอบสนองตอความรูสึก
ั
ั
ั
ั
้
2. ความตองการในการใชพนทสาธารณะ หรอพนททใชรวมกนภายนอกหองพก ไมวาจะเปน บนใด พนท ่ ี
ั
ื
ื
ี
ื
้
่
่
ี
้
ี
ื
่
่
ี
ุ
้
ื
ิ
่
้
้
ํ
ี
ื
ึ
ทางเดินรวม พนทสาธารณะ พนทสวนกลาง ซงพนทเหลานทาใหเกดพฤติกรรมทางสังคมอันไดแก 1) บคคลตอกลุม 2) กลุม
ี
่
่
ี
้
ื
ุ
ี
่
่
ื
้
้
้
ั
ตอกลมควรมีพนททเหมาะกจกรรมกลุมนน ๆ โดยความตองการเหลานสามารถเสริมสรางใหการออกแบบอาคารเปนผลสําเร็จ
ี
ี
ิ
ั
ํ
ี
่
ิ
่
ั
ได เชน การกาหนดตาแหนงของหองพก การเพมพนททางเดนรวม การออกแบบใหใกลท่สาธารณะ (ลาวณย จลพลลภ,
ั
ื
้
ี
ํ
ิ
ุ
ั
้
ิ
ึ
ั
ั
ํ
ั
ํ
ู
ิ
่
ั
ึ
้
ึ
ื
2545) ดงนน รปแบบการเขาถงอาคารอาจเปนทางเลือกหนงในการทาใหเกดการปฎิสัมพนธ หรอกจกรรม ดงนนควรคานงถง ึ
ึ
การเขาถงอาคาร เชน การเขาถงแบบแนวราบทางเดียว ซงสามารถพบปะพดคย ไมใชแคเกดกจกรรมทางสังคมแตยงสงผลตอ
ิ
ู
ิ
ึ
ึ
่
ั
ุ
ิ
ิ
ํ
ุ
ั
่
ึ
ึ
ิ
ุ
ื
แดดและลมในการเขาถงภายในอาคาร ซงทาใหเกดการระบายอากาศ (น.อ อดศร บญกระจาย) อางองจาก (คทรยา รงเรอง,
ี
ั
็
ึ
ั
้
่
ึ
ํ
ื
ู
ึ
ิ
2558) หากมีการคานงถงทีตงดวยแลวกจะเปนประโยชน ตออาคารและยังรวมถงผูอยอาศย นอกจากไมตองมาตอเตม หรอ
ี
่
ปรบแกภายหลัง เชน กนสาดนารวซม ยงชวยใหประหยดพลังงานภายในหองพก โดยการเขาถงแบงไดดงน ตามรูปท 3.1
ั
ั
ึ
้
่
ํ
ั
ี
ั
ึ
้
ั
ั
ั
จงนาไปสูการพิจารณาเพือเหมาะสมกบพนทนน ๆ
่
ั
้
ึ
ํ
ื
ี
้
ั
่
รปท 1 แสดงการสัญจรแนวราบ แบบระเบยงเดยว
ี
ี
ี
่
ู
ทมา: http://www.aucklanddesignmanual.co.nz(5.04.2561)
่
ี
้
ื
ั
่
ี
3.3 ระยะครอบครวทสงผลตอการใชพนท
ี
่
ั
ั
่
ึ
ี
ื
่
้
่
่
ี
ิ
ยงอาจสงผลตอการเปลียนแปลงพนท โดยแบงออก 6 ระยะ ไดแก ซงแตระยะมีพฤตกรรมทแตกตางกนออกไป
ื
ิ
ิ
ํ
ี
ึ
และยังสงผลถึงจานวนสมาชกอาจมถง 3-5 คน (สริยา ฟองเกด, 2559) โดยชวงทระยะกลุมมจานวนสมาชกมากสุด คอ ระยะ
ิ
ุ
ํ
่
ี
ี
ุ
ั
ํ
ิ
ลูกเปนวยรน จานวนสมาชกอาจสงผลใหเกดพนททเหมาะสม เชน พ้นทีทากิจกรรมรวมกนของครอบครัว พนทหองโถง เพอดู
่
ื
่
ํ
ั
ื
้
่
ี
ื
ื
ี
ิ
้
่
ี
่
187