Page 201 - The 10th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 201
่
ุ
ี
ั
้
ตารางท 2 (ตอ) แสดงความตองการและปญหาจากการเขาไปสัมภาษณจากทงหมด 20 กลมตวอยาง
ั
่
ี
พบวาพนททมปญหาในการใชงานมาก
ื
ี
้
่
ี
ุ
ื
ิ
ั
ี
่
ื
ทสดคอบรเวณครว รองลงมาคอหองนอน
ึ
่
้
ํ
และหองนา ซงพบวาครวจะอยูในบรเวณ
ั
ิ
่
ึ
ํ
ทางเขาหองพกซงตรงกบตาแหนงของ
ั
ั
็
หองนาและหองเกบของ และเปนเสนทาง
้
ํ
ั
สญจรหลกในการเดินความตองการของ
ั
ี
ี
ั
้
ี
พ นททมปญหาในการใชงาน 1.โถง
ื
่
ั
ั
ี
ื
ี
้
ั
ี
้
ี
พ นททมปญหาในการใชงาน 2.หองนอน เจาของหองพกทตองการปรบปรุงภายใน
ั
ั
ื
พ นททมปญหาในการใชงาน 3.ครว สวนครว
ี
ี
ี
้
ั
้
้
ํ
ั
ี
ี
ื
ี
พ นททมปญหาในการใชงาน 4. หองน า
ทมา: ผูวจย (2562)
ั
ิ
่
ี
่
รปท 4 ภาพพนทแสดงทางเดินรวม
ี
ี
้
ู
ื
่
ี
่
ทมา: ผูวจย (2561)
ิ
ั
ี
ี
่
้
ั
ู
จากการเขาไปเกบขอมลพบวา ผูทอยอาศยมตังแตจานวน 2-5 คน ซงพบวาสวนใหญผูทพกอาศยภายในหองพกมาก
ั
ึ
ั
่
ู
่
ี
็
ั
ํ
ี
่
ั
่
ี
่
ํ
ี
ี
ั
สุดคอกลุมทมจานวนสมาชก 3-4 คนซงเปนกลุมทมบตรอยูในชวงวยเรยนและวยทางาน จากการสํารวจพืนทการเขาใชงาน
ี
ุ
้
ื
ิ
ํ
ี
่
ึ
่
ี
ื
้
ื
ื
่
ื
ั
ี
่
้
ั
ู
ี
ี
ั
ี
่
ี
ภายในหองพกอาศยพบวาพนททมีปญหามากทสุดคอพนทสวนโถงเนองดวยสวนโถงมไวทรบแขกและพักผอนดทวแตม ี
่
ี
ี
ึ
ิ
้
ิ
ั
ื
ํ
ี
ิ
กจกรรมเพิมเติมคอรบประทานอาหาร และนอน หากมีจานวนสมาชกมากกวา 4 คนขนไปพบวามการใชบรเวณสวนโถงเปน
่
ี
ั
ุ
ี
้
ํ
ู
่
ี
ั
่
ี
ุ
ื
้
ุ
พนนอนและยังรวมถึงบตรสาวทอยในชวงวยรนและลูกสาวทแตงงานมครอบครวหากมบตรหลานตังแต 1-12 ป จะทาการยาย
ั
ครวไปอยในบรเวณดานหลังเพอปองกนอนตรายจากเด็กในชวงทประกอบอาหารสวนใหญพบวาเปนชวงเย็น
ั
่
ื
ั
ู
ิ
ี
่
ี
ิ
การระบายอากาศยังมความเหมาะสมภายในหองพักแตพบวาหองทมสมาชก 5 คนกลาววา มการระบายอากาศทไม
่
ี
ี
ี
่
ี
ั
ั
ี
่
้
่
ื
ี
ู
่
ี
ี
ุ
่
ี
ุ
ื
้
่
เหมาะสมทีทตองการมากทสุดพบวาเปนพนทสวนของหองนอน เปนกลุมทลูกอยในชวงวยรน คอตงแตอาย 13-23 ปมความ
ั
่
ตองการหองนอนทีมีความเปนสวนตวโดยเฉพาะลูกสาวรองลงมาพบวาเปนสวนโถงและหองนาสิงทตองการปรบเปลียน
ี
้
่
ํ
่
่
ั
่
ิ
่
ื
่
้
ั
้
ึ
ื
ื
่
ิ
้
ั
ั
ี
ี
่
ั
่
เพมเตมคอการกนพนทภายในหองพกเพอความเปนสวนตวซงพบวากลุมคนทีตองการพนทความเปนสวนตวจะเปนกลุมทลูก
ื
ี
่
อยในชวงวยรนถงวยทางานโดยเฉพาะกลุมทเปนบตรสาว รองลงมาคอพนทหองโถง วสดุทมปญหาในการใชงานคือพนซึงเดม
่
ี
่
้
ื
ิ
ุ
ื
ั
ู
ื
ุ
ี
ี
ึ
ั
่
ํ
ี
ั
้
่
ี
ั
ี
่
ใชเปนกระเบืองยาง มีบางหองพกมการเปลียนแปลงโดยใชเสือนามน ทางเดนรวมใชเปนพนทตากผา และวางสิงของเชนปลูก
ิ
ํ
ื
่
้
่
้
่
้
ั
ั
้
ตนไม ชนวางรองเทา ราวแขวนผา
192