Page 154 - The 13th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 154
ั
่
ั
ิ
ั
ั
ี
จะสงผลดถึงการปรบตวเขากับการใชชีวิตในร้วมหาวทยาลัย เชนเดียวกับที่ Samura (2016) พบวาการมีพื้นทีสวนตวและได
ั
แสดงความเปนเจาของในพื้นที่จะชวยสงผลดีตอคุณภาพทางอารมณ สุขภาพจิต และการปรับตวใหเขากับชีวิตมหาวิทยาลย
ั
้
ั
ั
ั
่
้
่
่
ั
นอกจากนน Lewinson (2007) ยงพบวาความเปนสวนตวทีนอยลงของผูพกอาศัย ตลอดจนการทีตองครอบครองพืนทีแบบไม
่
ิ
ี
ื
ถาวรและมีเงอนไขประกอบ สงผลใหเกดความเครยด
ั
การศึกษาความเปนสวนตัวของนักเรียนนักศึกษาที่ใชงานหองพักรวมกัน ในสถานการณโควิด 19 จึงสอดคลองกบ
ิ
ยุทธศาสตรกรมสุขภาพจิต ในชวงแผนพัฒนาเศรษฐกจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) โดยกรมสุขภาพจิต
(2560) และประเด็นวิจัยที่มุงเนนตามนโยบายและยุทธศาสตรการวิจัยแหงชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2560-2564) ในประเดน
็
เกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษยทุกชวงวัย โดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแหงชาติ (2559) ซึ่งสอดคลองกับกรอบของ
ยุทธศาสตรชาติ 20 ป โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ (2561) แผนงานและยุทธศาสตร
ั
ื
่
่
ิ
ั
ั
ั
ี
ี
ั
่
้
เหลานถกวางไวเพอพฒนาประเทศตามวสยทศน มนคง มงคง ยงยน โดยหนึงในตัวชวดหรือยทธศาสตร มแผนทมเปาหมายใน
ี
ุ
ื
ั
่
ี
่
ั
่
ั
่
ี
้
ู
ุ
ี
ั
ั
่
ึ
ั
ุ
ุ
ิ
การเสรมสรางและพฒนาศกยภาพมนษย ตามมาดวยแนวทางทตองการลดปจจยเสียงดานสขภาพและใหทกภาคสวนคำนงถง ึ
่
่
ื
่
ผลกระทบตอสุขภาพ เพอเสริมสรางใหคนมสุขภาวะทด ี
ี
ี
ั
การศึกษาความเปนสวนตัวของนักเรียนนักศึกษาที่ใชงานหองพักรวมกน ในสถานการณโควิด 19 จึงเปนการศึกษา
ั
ั
ิ
็
ิ
ั
ึ
ั
้
่
วาในสถานการณทตองใชงานหองพกเตมเวลามากกวาปกตนนเกดประเด็นปญหาเกยวกบความเปนสวนตวอยางไร และศกษา
ี
ี
่
ถึงประเด็นเกี่ยวกับการสรางความเปนสวนตัวในพื้นที่ เพื่อใหเขาใจถึงรูปแบบและพฤติกรรมที่นักเรียนนักศึกษาที่ใชงาน
ู
หองพกรวมกนใชสรางความเปนสวนตวภายในหองพก เพอเปนขอมลใหผูเกยวของหรือผทสนใจสามารถนำไปประยุกตใชเปน
ั
ั
่
ู
ี
ั
ื
่
ี
่
ั
แนวทางการออกแบบพื้นที่พักอาศัยหรือพื้นที่ที่มีการใชงานรวมกันสำหรับนักเรียนนักศึกษาในสถานการณโควิด 19
โดยมุงเนนในประเดนเกยวกบความเปนสวนตว ั
ี
่
ั
็
ั
2. วตถประสงคของการศึกษา
ุ
2.1 เพอศกษารปแบบและพฤตกรรมทีนกเรียนนกศกษาผใชงานหองพกรวมกนใชสรางความเปนสวนตว
ู
ั
ั
ั
ึ
่
ื
่
ั
ู
ึ
ิ
ั
2.2 เพื่อศึกษาลักษณะทางกายภาพและปญหาดานความเปนสวนตัวภายในหองพักที่มีการใชงานรวมกันของ
ี
ึ
ั
นกเรยนนกศกษา
ั
2.3 เพื่อเสนอแนะแนวทางการออกแบบและปรับปรุงหองพกที่มีการใชงานรวมกันของนักเรียนนักศึกษาใน
ั
ิ
สถานการณโควด 19 ในประเด็นดานความเปนสวนตว ั
ี
่
ิ
3. ทฤษฎี และงานวจยทเกยวของ
ี
่
ั
ิ
่
ี
ี
่
ั
ั
ึ
ั
จากการศกษางานวจยทเกยวของกบความเปนสวนตว Lewinson (2017) พบวา การขาดความเปนสวนตวสงผลให
ั
ี
เกิดความเครียด ในสวนของวิธการที่ใช ภัทราวดี ธงงาม (2562) ระบุวาแนวทางการออกแบบที่สงผลใหเกิดความพึงพอใจตอ
นักศึกษาคือการจัดพื้นที่ใหปรับเปลี่ยนตามการใชงานของนักศึกษาได เชน เชื่อมพื้นที่ภายในดวยประตูกระจกบานเลื่อน
ุ
ิ
ิ
ิ
ึ
ี
ั
้
ุ
นรนทร สรวทยศรกล (2546) ระบวานกศกษาตองการใหมฉากกนเตีย ๆ ในสวนทำงานชวยบงสายตา
ั
้
ั
จากการศึกษางานวิจยทีเกี่ยวของกับความรสึกเปนเจาของในพื้นท Samura (2016) และ Lewinson (2007) มผล
ู
ั
่
ี
ี
่
การวิจัยสอดคลองกันวาสิทธิ์ในการดัดแปลง แสดงความเปนเจาของในพื้นที่ของตนเอง สงผลใหผูใชงานเกิดความรูสึกผอน
คลายและกลาที่จะใชงานพื้นที่มากขึ้น เชนเดียวกับ Whettingsteel (2020) ที่พบวาการออกแบบพื้นที่ใหงายตอการ
ึ
้
ปรบเปลียนและแสดงความเปนเจาของ สงผลใหนกเรียนทใชงานพนทเกดความรูสึกผอนคลายและเปนตวของตัวเองมากขน
ั
ั
ี
่
่
้
ื
่
ิ
ั
ี
่
ี
้
ี
่
ั
่
่
ี
จากทผูวจยทบทวนงานวิจยทีเกยวของ พบวา มการศึกษาเกียวกบความเปนสวนตวและความเปนเจาของในพืนทพัก
ั
ิ
ี
ั
ั
่
อาศัย แตยังไมพบการศึกษาความสัมพันธของประเด็นเหลานี้กับสถานการณในปจจุบันที่มีการใชงานหองพักตอวันเปน
ึ
ึ
เวลานานมากขน และมีรูปแบบการใชงานหองพกทตางจากเดิมดวยสถานการณโควด 19 จงเปนชองวางในการวจยทงานวิจยน ้ ี
้
ั
่
ั
ี
ั
ิ
ิ
่
ี
146