Page 56 - The 13th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 56


                                                                                                       ั
                                                                                            
                                                                               ้
                                                                                                   ั
                        ในสหรัฐอเมริกา Federal Housing Administration (FHA) ไดมีการกำหนดตังแต ค.ศ. 1942 วาอาคารพกอาศยตองม ี
                                                                     
                                                                                                         
                                  ้
                                 ี
                                 ่
                                                                                                 
                 ื
                 ้
                   ี
                   ่
                                  ื
                                               
                                                                                ิ
                                                                                ่
                                                                 ี
                                                                  
                                                   
                                                                                     
                                     ี
                                     ่
                                       
                                                                                  ้
                                                                                  ึ
                                                                                                       
                                                                                                           ั
                                                                                                         
               พนทการระบายอากาศทพนทใตหลังคา ไมนอยกวา 1:300 และตองมชองระบายอากาศเพมขนเปน 1:150 หากไมมีการใชแผนกน
                                                                                                          ี
                                          ิ
                                                                                                  
                                           ั
                                                                                                          ่
                                                                                            ี
                                                                         
                                                                                            ่
                                   ่
                                   ึ
                                                             
                                                               ึ
                  ้
               ไอนำ (Vapor retarder) ซงจากงานวจยของ Parker (2005) ไดศกษาความจำเปนของการระบายอากาศทหลังคาบานเพอหาทมา
                                                                                                      ่
                                                                                                      ื
               ของกฎหมายที่กำหนดใหเจาะชองระบายอากาศ 1:300 แตไมพบที่มาของตัวเลข อยางไรก็ตาม จากงานวิจัยสามารถสรุปเหตุผล
               ของการกำหนดไดวาเปนสิงจำเปนเพอควบคมปญหาความชนสะสมในพนทอากาศหนาวเยน
                                          ื
                                                                                ็
                                                  
                                                                   ้
                                                                   ื
                                          ่
                                  ่
                                                                     ี
                                                          ้
                                               ุ
                                                                     ่
                                                          ื
                                
                                       
                             
                       สำหรับสภาพอากาศรอนชื้น งานวิจัยของ TenWolde และ Rose (1999) ไดทำการศึกษาการระบายอากาศใตหลังคา
               และฝาเพดานในโบสถ สรุปวาการระบายอากาศใตหลังคาเปนเพียงทางเลือกเทานั้น เพราะสามารถลดความรอนไดนอย อีกทง ้ ั
               งานวิจัยในไทยของ วิกรม จำนงคจิตต (2545) ที่ทดลองการระบายอากาศใตหลังคาโดยใชพัดลมระบายอากาศที่มีอัตราระบาย
                                               3
                            3
               อากาศที่ 0.18 m /min/W หรือ 253.19 ft /min แทนวิธีการพาความรอน (Convection) แบบการใชลมธรรมชาติพบวาความ
                                                  
                                           ο
               รอนลดลงนอยมาก ประมาณ 0.1-0.2  C ซึ่งไมตางจากการระบายอากาศแบบธรรมชาติ จากงานวิจยของ โชติวิทย พงษเสรมผล
                                                                                                       
                                                                                        ั
                                                                                                   
                        
                                                                                                         ิ
                                                   
               (2539) ที่ทำการเปรียบเทียบอุณหภูมิภายในหลังคาระบบปด และหลังคาที่มีระบบระบายอากาศ พบวาคาพลังงานความรอนท ่ ี
               ถายเทเขามาทางหลังคาระบบระบายอากาศนั้นลดลงประมาณ 8 เปอรเซ็นตเทียบกับหลังคาระบบปด แตยังไมสามารถแสดงให
               เห็นวาหลังคาระบบระบายอากาศชวยลดพลังงานความรอนได เนื่องจากขอมูลที่ไดมีตัวแปรสำคัญคือ อุณหภูมิภายในหอง
                                                                      ู
                                                                    
                                                                  ี
                                                                          ุ
                                                                ้
                                                                        
                                                                ั
                         
                                                                                                  ั
                           ุ
                               ู
                                                                                                 
                                                                                                  ้
                                                                                                    ้
                                                                                                    ี
                                                                                                        ี
                 ื
                 ่
                                       
               เนองจากพบวาอณหภมิภายในหองของหลังคาระบบระบายอากาศนนมคาสงกวาอณหภูมหองของคาระบบปด แตทงนอาจมความ
                                                                               ิ
                                                                                 
               คลาดเคลื่อนของขอมูลเนื่องจากไมไดเก็บจากอาคารจำลองเดียวกัน ในชวงเวลาเดียวกัน อยางไรก็ตาม ไดมีงานวิจัยบางชิ้นท ี ่
                                                               
                                       
                  ั
                                                                      
                                                                        
                                                                             ิ
                                                                              ั
                                                                                                         ่
                       
                                                                                                         ึ
               สนบสนนวาการระบายอากาศใตหลังคาสามารถลดความรอนเขาสูอาคารได เชน งานวจยของ Beal และ Chandra (1995) ซงถก
                     ุ
                                                             
                                                                                                           ู
               กลาวในการศึกษาของ TenWolde และ Rose (1999) วาการระบายอากาศผานทางฝาชายคาที่มีสัดสวน 1:230 ของพื้นที่ใต 
                                                   
                                                          
                                                           ็
               หลังคา สามารถลดความรอนทไหลผานหลังคาได 25 เปอรเซนต 
                                      ่
                                      ี
                       จากการศึกษาชี้ใหเห็นวาการระบายความรอนในพื้นที่ใตหลังคาโดยอาศัยแรงลมจากธรรมชาตินั้น ไดประสิทธิผลไป
               ในทางไมนาพอใจ อยางไรก็ตาม ผลิตภัณฑที่ออกแบบมาเพื่อแกปญหาความรอน ดวยหลักการถายเทความรอนออกจากโถง
                                                                         ิ
               หลังคานั้นยังคงมีอยูมากมาย ทั้งลูกหมุนระบายอากาศ พัดลมดูดอากาศแบบตดหลังคา หรือระบบที่ออกแบบโดยอาศัยหลักการ
               เติมอากาศจากภายนอกบาน และนำอากาศภายในบานรวมทั้งพื้นที่ใตหลังคาออกสูภายนอก โดยจากงานวิจัย ของศรัณยา
               ศรีพิสุทธิธรรม, ติกะ บุนนาค และปรีดา จันทวงษ (2021) พบวาบานจำลองที่ติดตั้งปลองหลังคาระบายอากาศที่ใชการระบาย
                                                                          ื
                                                             
                                                                          ่
                                              ี
                                               
                           ั
               อากาศแบบบังคบผาน  พัดลมระบายนั้นมคาการนำความรอนผานหลังคาลดลงเมอเทียบกับการระบายอากาศแบบธรรมชาติโดย
                                                                                                       
               อาศัยแรงลอยตัวของอากาศภายในหองใตหลังคา งานวิจัยของ วิทยา พวงสมบัต, จิระศักดิ พุกดำ และดิษฐา นนธิวรวงศ (2564)
                                              
                                                                          ิ
                                                                                 ์
                                                                                      
                                   ่
                                                                                    ี
                                                                                          ั
                                   ึ
                ่
               ซงไดทดสอบบานสองหลังซงหลงหนงมงหลงคาคอนกรตปกตทวไป อกหลังหนงมงหลงคาคอนกรตรวมกบคอนกรตระบายอากาศท ี ่
                                                                 ี
                                                                                                ี
                          
                ึ
                                                                         ุ
                                                       ี
                                              ั
                                                                            ั
                                                                       ึ
                                                            ั
                                                           ิ
                                                                       ่
                                                            ่
                                           ุ
                                         ึ
                                         ่
                                      ั
               ติดตั้งพัดลมไฟฟาเซลลแสงอาทิตยโดยตดตั้งอยทางทิศใตของหลังคา พบวากระเบื้องคอนกรีตระบายอากาศที่ติดตังพัดลมไฟฟา
                                                                                                   ้
                                                         
                                         
                                             ิ
                                                  ู
                                                                        
               เซลลแสงอาทิตยสามารถสรางจำนวนการเปลี่ยนอากาศภายในหองทดสอบไดในชวง 6-7  ACH (Air Change per Hour) ทำให
                                    
               อุณหภูมิหองทดสอบมีคาใกลเคียงกับอุณหภูมิอากาศแวดลอม นอกจากนี้บานทดสอบมีคาความรอนผานฝาเพดานต่ำกวาบาน
               ทดสอบอางอิงโดยมีคาเปอรเซ็นตการลดความรอนสูงกวา 40 เปอรเซ็นต อีกทั้งงานวิจัยของ C. Nutphuang, S.
               Chirarattananon, และ V.D. Hien (2011) ที่ทำการศึกษาการระบายอากาศใตหลังคาผานโปรแกรม CFD (Computational
                                                                                                           
               Fluid Dynamics) พบวาการจำลองการพาความรอนแบบบังคับนั้นสามารถลดการถายเทความรอนผานกระเบื้องหลังคาไดเปน
                                                                ั
                                                             
                           ิ
                                
                                                                                                 
                                                                                          
                                                                                                    ื
               อยางดี อุณหภูมความรอนบนแกนเหล็กของหลังคามีอณหภูมิตางกบการพาความรอนแบบธรรมชาติอยางเห็นไดชัดคอ ประมาณ
                                                       ุ
               10-15  K
                     ο

                                                           48
   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61