Page 95 - The 12th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 95
ั
ี
่
ื
่
่
ั
ุ
ื
้
ตารางที 2 สรปปจจยและนยามในการกำหนดพืนทจดการขยะชมชนเพอผลิตเชอเพลงขยะ
้
ิ
ิ
ุ
ิ
ตัวแปรเชิงมโนทัศน นยามเชิงปฏิบัติการ
ปจจยท ี ่
ั
(Conceptual Variable) (Operational Definition)
ุ
ิ
ิ
่
ิ
ี
1 ปรมาณขยะชุมชน ปรมาณขยะมูลฝอยทเกิดจากกิจกรรมตาง ๆ ในชมชน เชน บานพักอาศย ธุรกจรานคา สถาน
ั
ประกอบการ สถานบริการ ตลาดสด ฯลฯ ทงนไมรวม
้
ี
ั
้
้
ื
ั
ี
ของเสยอนตรายและมูลฝอยตดเชอ
ิ
ี
้
2 ระยะทางจากพืนทจดการขยะชุมชนถง ระยะทางทางถนนจากพืนทจดการขยะชมชน ไปยังแหลงรบซอเชอเพลงขยะ (RDF) ทมความ
้
่
ิ
ุ
ั
ึ
ี
่
ั
ี
้
้
ั
ื
ี
ื
่
ั
ิ
ื
้
่
ั
้
ื
แหลงรบซอเชอเพลงขยะ (RDF) มนคง
ุ
3 ระยะทางจากชุมชนถง ระยะทางทางถนนจากแหลงกำเนิดขยะชมชน โดยยึดจากตำแหนงศนยกลางองคกรปกครอง
ึ
ู
้
ี
ิ
ี
พืนทจัดการขยะชุมชน สวนทองถน (อปท.) ไปถึงพืนทจัดการขยะชุมชน
่
้
่
่
้
่
ี
ื
่
ี
ั
ั
ั
ี
่
4 การไมมพืนทออนไหวใกลกบ การอยูในระยะหางไกลจากพืนทสำคญประเภทตาง ๆ ทสมควรไดรบการสงวน รกษา หรอ
ี
้
ั
ี
้
ุ
พืนทจัดการขยะชุมชน ปกปองไว เชน แหลงนำ แหลงชมชน สถานททองเทยว ศาสนสถาน เปนตน
ี
่
้
ี
่
่
ี
ั
้
ิ
ั
่
ี
ั
่
่
5 ความสอดคลองกบกฎหมายเชงทตง ้ ั การไมขดตอกฎหมายในการใชพืนทเพือเปนสถานทจดการขยะชุมชน เชน กฎหมายการผง ั
่
ี
ี
ของพืนทจัดการขยะชุมชน เมอง กฎหมายสิงแวดลอม เปนตน
่
่
้
ื
ื
้
ิ
่
่
ี
ิ
่
ิ
ิ
่
ี
6 ปรมาณขยะมูลฝอยตกคาง ปรมาณขยะทีตกคางในพนทจัดการขยะเดมทจัดการดวยวธีเทกอง ฝงกลบ เตาเผา และอืน ๆ
้
่
ื
7 ขนาดพืนทจัดการขยะชุมชน ขนาดของพืนททใชในการกอสรางระบบจดการขยะเพือผลตเชอเพลิงขยะ (RDF) และระบบอน
ิ
้
ี
ั
่
่
ื
ี
่
ี
่
้
ี
้
ั
่
่
ี
ๆ ทจำเปนเพือการดำเนินงานไดอยางมประสทธิภาพ เชน ระบบบำบดนำเสย ระบบบำบด ั
ี
ิ
ั
ั
อากาศเสย พืนทกันชน ฯลฯ สามารถรองรบการจดการขยะชุมชนไดอยางนอย 15 ป
ี
่
ี
้
ี
ุ
ี
ื
้
ิ
ี
่
่
ุ
่
่
่
ี
้
8 การใชประโยชนทดนทเกียวของกับ การเปนพืนททมการบรหารจัดการขยะชมชนในปจจบัน หรอเปนพืนทจัดการขยะชุมชนทหยุด
ี
ี
่
ี
่
ิ
การจดการขยะชุมชน ดำเนินการ เชน พืนทเทกองขยะ สถานีคดแยกขยะ บอฝงกลบ เปนตน
ี
่
ั
้
ั
ุ
ั
ั
ั
่
ิ
ี
ุ
ู
ี
ิ
ิ
้
้
9 คณลกษณะทางกายภาพของ คณสมบตเชงพืนท เชน ความลาดเอยงของทดน ความสงจากระดบนำทะเลปานกลาง ความสง ู
่
ี
ี
้
่
ี
่
้
ี
พืนทจัดการขยะชุมชน เทยบเคยงกับพืนทขางเคยง เปนตน
ี
ี
ทมา: ผูวจย (2564)
่
ิ
ี
ั
ื
ิ
ื
่
ั
้
3.2 ขันตอนและเครองมอการวจย
ั
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ผูวิจยเลือกใชวิธีเก็บขอมูลแบบผสมผสาน โดยในขั้นตอนแรกเปนการเก็บขอมลระดบทุตยภูม ิ
ั
ิ
ู
ู
ิ
ี
ิ
ั
้
เปนหลัก (หวขอ 3.1) จากนนเปนการเกบขอมลปฐมภูมดวยการใชแบบสอบถามสัมภาษณผูเช่ยวชาญดวยเทคนคเดลฟาย (Delphi
ั
็
Technique) โดยอาศัยการคัดเลือกผูเชี่ยวชาญที่มีความรูทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติจำนวน 9 ทาน เพื่อนำไปสูการวิเคราะห
ี
่
ุ
ี
ั
ระบปจจยทมผลตอการเลือกพนทจดการขยะชมชนเพอผลิตเชอเพลงขยะ (RDF) ตอไป
ั
ุ
่
ี
ื
้
ิ
่
ื
ื
้
3.2.1 เทคนิคเดลฟาย (Delphi Technique) เทคนิคเดลฟายเปนวิธีการที่นอกจากมีความเหมาะสมในการ
คาดการณเรื่องราวตาง ๆ ที่เปนไดในอนาคตแลว วิธีการดังกลาวนี้ยังมีประสิทธิภาพในการลดอิทธิพลในการตัดสินใจจากการ
้
ั
ั
็
็
ุ
่
ื
ั
ิ
ิ
ู
เผชญหนากนในการแสดงความคดเหน แตเปดโอกาสใหรบรถงความคดเหนของผูถกสัมภาษณทงกลมเพอทบทวนความคดเหนของ
ิ
ิ
ึ
็
ู
ตนเอง และตัดสินใจปรบเปลี่ยนความความคิดเห็นในการสัมภาษณรอบตอไป จนนำไปสูการรวบรวมคำตอบที่เปนเอกภาพและ
ั
ิ
ฉนทามติในทสด (Ducanis, 1970 อางใน นยนา นรารักษ, 2539) อกทงยงเปนเครืองมอทเหมาะสมกับการศกษาวเคราะหขอมลท ่ ี
ี
ั
ึ
ู
ื
ี
่
ี
ุ
ั
้
่
่
ั
ั
ุ
มีความละเอียดลึกซึ้ง ที่ไมสามารถเก็บตัวอยางไดจากกลุมประชากรโดยทั่วไป แตแปนกลุมประชากรที่มีความเชี่ยวชาญ
มีประสบการณเฉพาะดานตรงกับหวขอปญหาที่ทำการศกษา จึงตองอาศัยการคัดเลือกตัวอยางจากกลุมประชากรที่มจำนวนนอย
ั
ึ
ี
ความโดดเดนสำคัญ อีกประการของเทคนิคเดลฟายนี คือ การสัมภาษณที่เปนกระบวนการกลุมที่ไมมีการเผชิญหนาระหวาง
้
ั
ผูทรงคุณวุฒิที่ไดรบเชิญมารวมในการศึกษา เพื่อขจดอทธพลทางดานความคิดตอกลมอันมผลใหผูเชี่ยวชาญทานอื่นสามารถแสดง
ิ
ิ
ุ
ั
ี
่
ู
้
ความคิดเห็นท ขัดแยงไดอยางอิสระ ผูใหขอมูลสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดเห็นไดหลังการตรวจสอบขอมลซำโดยการใหขอมล
ี
ู
ุ
ิ
่
ื
ุ
ยอนกลับ แกสมาชกในกลมเพอใหทบทวนคำตอบตนเอง หลังจากไดทราบความเห็นของกลม
86