Page 199 - The 9th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 199
th
Research Proceedings in The 9 Graduate Integrity Conference: April, 2018
จากการสังเกตสภาพแวดล้อมทางกายภาพและพฤตกรรมของผู้เข้าใช้ สัมภาษณ์ สอบถาม และสนทนากลุ่ม
ิ
�
ี
ี
พบว่าปัญหาสาคัญของพิพิธภัณฑ์แห่งน้ คือ ทางเดินภายในพิพิธภัณฑ์ ระยะทางเดินโดยประมาณ 70-80 เซนติเมตร ท่เป็น
้
�
�
ี
ผลสืบเน่องมาจากพ้นท่ภายในพิพิธภัณฑ์มีความคับแคบและจานวนวัตถุท่ต้องการจัดแสดงมีจานวนมาก ทาให้ต้องมีการรุกลา
ี
ื
ื
�
�
เข้ามาในส่วนของพื้นที่ทางเดิน ซึ่งท�าให้ความกว้างของทางเดินไม่ตรงตามมาตรฐานการออกแบบ ในการออกแบบทางเดิน
ที่เหมาะสมมีระยะดังนี้ ทางเดิน 1 เลน ควรมีระยะทางเดินโดยประมาณ 75-90 เซนติเมตร และทางเดิน 2 เลน ควรมีระยะ
ทางเดินโดยประมาณ 1.70 เมตร (Panero & Zelnik, 1979)
ั
ู
ิ
จากการสงเกตสภาพแวดล้อมทางกายภาพและพฤตกรรมของผ้เข้าใช้ สมภาษณ์ และสนทนากล่ม พบปัญหา
ุ
ั
ด้านความปลอดภัยในการจัดแสดง จากผลการวิจัยช้ให้เห็นว่าจากการตอบแบบสอบถามของผู้เข้าชมเกือบคร่งหน่งรู้สึกว่า
ึ
ึ
ี
ี
ี
ี
ี
ปลอดภัยมากท่สุดซ่งไม่สอดคล้องกับการสนทนากลุ่มกับภัณฑารักษ์ท่ได้ให้ความคิดเห็นว่าเคยมีอุบัติเหตุเก่ยวกับการเฉ่ยวชน
ึ
ช้นงาน จนเกิดความเสียหาย และไม่สอดคล้องกับหลักการประเมินอาคารหลังการใช้งานในด้านประโยชน์ใช้สอยเก่ยวกับ
ี
ิ
การประเมินศักยภาพของพื้นที่ใช้งานในเรื่องความสอดคล้องของสภาพแวดล้อมกับความต้องการทางกายภาพของผู้ใช้ ซึ่งมี
ิ
ิ
ิ
้
ู
ื
่
ั
่
่
ี
�
ึ
่
ผลตอความสามารถและประสทธภาพในการทางานของผ้ใช้อาคาร และดานพฤตกรรมซึงเกยวกบเรองของความพงพอใจและ
ความเป็นอยู่ของผู้ใช้อาคาร (Horgen and Sheridan, 1996)
ข้อเสนอแนะในการปรบปรุงช่วคราว คือ ควรมีการจัดหาตู้มาใส่วัตถุจัดแสดงเพ่มเตมและทากล่องครอบวัตถุ เพ่อป้องกัน
ิ
ิ
ื
ั
ั
�
การเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายในอนาคต และส่วนจัดแสดงภายในเบญจมราชูทิศพิพิธภัณฑ์มีชิ้นงานที่ต้องการจัดแสดง
�
อีกเป็นจานวนมากจึงควรมีการจัดนิทรรศการหมุนเวียน เพ่อเป็นการลดจานวนช้นงานท่จะต้องนาออกมาจัดแสดง ในแต่ละคร้ง
ี
ิ
ั
�
�
ื
สามารถแสดงชิ้นงานได้ครบทุกชิ้นเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นให้นักเรียนเข้ามาเรียนรู้
ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงถาวร คือ ขยายพ้นท่ของเบญจมราชูทิศพิพิธภัณฑ์ นอกจากน้ในส่วนของความปลอดภัย
ี
ี
ื
ของชิ้นงานที่ปัจจุบันไม่ได้มีการป้องกัน จะต้องมีการจัดเก็บให้เรียบร้อยและปลอดภัย ในส่วนของการจัดแสดงควรจัด ให้ดูมี
ความสากลมากขึ้น สร้างบรรยากาศให้เข้ากับวัตถุที่จัดแสดง ท�าให้ไม่เกิดความซ�้าซาก ความจ�าเจ ท�าให้พิพิธภัณฑ์ดูมีชีวิต
�
ี
การวิจัยน้ผู้วิจัยได้ทาการศึกษาสภาพแวดล้อมทางกายภาพของเบญจมราชูทิศพิพิธภัณฑ์เท่านั้น การวิจัยในอนาคต
จึงควรศึกษาลักษณะสภาพแวดล้อมทางกายภาพจากกรณีศึกษาพิพิธภัณฑ์ในสถานศึกษาอ่นๆ ประกอบ เพ่อให้ได้ผลการวิจัย
ื
ื
ที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และการวิจัยนี้ได้ท�าการศึกษาความคิดเห็นของบุคลากรภายในโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรีเท่านั้น
ผู้ที่จะน�าไปวิจัยต่อจึงควรที่จะศึกษาความคิดเห็นของบุคคลภายนอกด้วย
เอกสารอ้างอิง
จิรา จงกล. (2532). พิพิธภัณฑสถานวิทยา (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้ง กรุ๊พ จ�ากัด
ิ
ี
ู
ุ
ิ
ี
ิ
ิ
ิ
ั
่
ื
ิ
ู
จฑามาศ แก้วพจตร. (2559). การศึกษากระบวนการเรยนร้ในพพธภณฑ์ เพอเสรมสร้างการเรียนร้ตลอดชวต. Human
Resources and Organization Development Journal, 8(1), 32-59.
ั
์
์
ธนวรรณ พยคฆทศน และเบญจมาศ กฏอนทร. (2560). แนวทางการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกายภาพส่วนจัดแสดง
ั
์
ิ
ุ
วัตถุและภาพถ่ายภายในพิพิธภัณฑ์สงครามโลกคร้งท่ 2 จังหวัดกาญจนบุรี. ผลงานวิจัยในโครงการประชุม
ี
ั
วิชาการระดับบัณฑิตศึกษา คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สจล., เมษายน 2560 ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
เจ้าคุณทหารลาดกระบัง.
นพศักดิ์ ฤทธิ์ดี. (2553). แนวทางการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางกายภาพของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร.
วิทยานิพนธ์ สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาสถาปัตยกรรมภายใน คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์, สถาบัน
เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.
Vol. 9 192