Page 164 - The 10th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 164
ี
ื
ุ
ุ
ุ
้
ั
ื
่
ี
้
ื
ุ
ี
่
ิ
ดงเดิมในชมชนทีพบได 2 ลักษณะ คอ เรือนเกยประยกตแบบมใตถน และเรอนเกยประยุกตแบบมการตอเตมพนทใตถนครง ึ ่
ั
ี
ื
่
ึ
่
ู
ี
ั
ี
ื
ื
ื
ื
ปนครงไม และยงพบเรอนอกกลุม คอ กลุมเรอนเกา ไดแก เรอนไทอสานหลังคาทรงปนหยา และเรอนเกยไทอีสาน ทยงพอ
ึ
ิ
ู
ี
หลงเหลือใหไดศกษาเพยงบางสวน แตกพบปญหาขนตอนการสืบคนขอมลในเชงลึก เนองจากกลมเรือนเกาสวนใหญถกรอถอน
ื
้
้
ั
็
ุ
ู
ื
่
ึ
ุ
ี
ั
ทงแลวสรางเรือนสมยใหมทดแทนหรือเรอนถูกปลอยทงรางไมพบผูพกอาศย ปจจบนจงพบเหนเรอนทมลักษณะรวมสมยมาก
็
้
ั
ื
ั
ั
ื
ิ
ั
ิ
ี
่
้
ี
ขน ภายหลังการลงพืนทศกษานารองและการสังเกตพบวามประเด็นทนาสนใจอย 3 ประเด็นหลกคอ
ํ
ื
้
้
ึ
ึ
่
ี
่
ู
ั
ี
้
ิ
่
่
ื
ั
ิ
ิ
้
ื
ี
้
1. สังเกตพบวา อาคารบานเรือนบางสวนมการลดทอนเอกลักษณทางสถาปตยกรรมเรอนพนถนดงเดมเพมมากขึน
ุ
ั
ึ
่
จากการสัมภาษณคนในชมชน พบสาเหตหนงมาจากปจจยความเจรญและการเตบโตทางเศรษฐกจ บวกกบการพฒนาและ
ั
ิ
ิ
ิ
ุ
ั
ื
ุ
ึ
ิ
้
การสงเสรมอาชพจากหนวยงานภาครฐทเพมขนเรอย ๆ โดยเฉพาะการเพิมขนของธรกจรานขายสินคาตาง ๆ และการ
ั
ิ
ิ
้
่
่
่
่
ี
ึ
ี
ํ
้
ื
้
่
ุ
ี
ั
้
ปรบปรงพนถนนตามตอก ซอย ใหมีความสะดวกสบายมากขึน ทาใหสภาพแวดลอมโดยรวมของพืนทในเขตชมชนเทศบาล
ุ
เมืองเขมราฐนน มีการปรบตวตอการเปลียนแปลงดานทอยอาศยใหทนสมยตามไปดวย เอกลักษณบางสวนทเปนสิงแสดงถึง
ั
ี
ั
้
ั
ู
่
ั
่
่
่
ี
ั
ั
ุ
ั
ู
่
่
ลักษณะเฉพาะทางสถาปตยกรรมและวัฒนธรรมของชมชนอาจถกบดบงลดทอนคณคาลงมาเรอย ๆ จนอาจเสียงตอการสูญ
ื
ุ
ี
ี
ิ
่
ั
สลายไปในทสุด (จตรมณี, วนด, และอรศิริ, 2559)
ุ
ิ
้
ั
ึ
ื
2. จากการสัมภาษณคนในชมชนพบวา ความตองการสรางทอยอาศยแบบเรอนสมยใหมไดรับความนยมเพมมากขน
ู
่
ี
่
ิ
ั
ิ
ทงความตองการปรบเปลียนรปแบบโครงสรางทางสถาปตยกรรมเดม และความนยมการนาวสดสมยใหมมาทดแทน รวมถง ึ
ั
่
ํ
ุ
ู
ิ
ั
ั
้
ั
ู
ั
ิ
ุ
ิ
การเปลียนแปลงลักษณะพฤติกรรมตามยคสมย จนปรากฏรปแบบเรือนสวนใหญมีววฒนาการจากของเดม หลงเหลือรองรอย
่
ั
้
ี
เดิมเพยงบางสวนเทานน
ั
ู
ิ
่
ึ
่
ี
3. จากการลงพืนทศกษานารองพบวา ยงไมพบขอมลการศึกษาลกษณะทางสถาปตยกรรมเรอนพนถนมากอน และ
้
ื
้
ั
ํ
ั
ื
ถายงไมมีการศกษาหรอจดบนทกขอมลทางสถาปตยกรรมเรือนพนถนเอาไว อาจไมหลงเหลือหลกฐานทางสถาปตยกรรมเอาไว
้
ื
ึ
ั
่
ู
ื
ึ
ั
ั
ิ
่
่
้
ทงทอาคารบานพกอาศย อาคารทางศาสนา ลวนเกิดขนจากวถชวต วฒนธรรม สภาพสังคม และความเชอของคนในทองถน
ั
ึ
ั
ิ
ี
ื
่
ั
ี
ั
ิ
ิ
ี
้
ิ
่
่
ึ
ิ
ั
จนทาใหเกดคณคาและเกดเอกลักษณประจําทองถนขนในอดต ซงเปรยบเสมอนกบการบนทกเรองราวทีววฒนาการอยาง
ี
ี
ิ
ิ
่
ุ
ึ
ื
ํ
่
ั
้
ึ
ื
ั
ุ
ั
่
ํ
ํ
ี
ตอเนือง และเปนลาดับถงรากฐานแหงวฒนธรรมของกลมชมชนนนเอง (ชลธ คาเกษ, 2553)
่
ุ
ั
ึ
ั
ี
ประเด็นปญหาทเกดขนในพนท แมเปนแคเพยงความสําคญบางสวนทางกายภาพทพบ แตการเปลียนแปลงทีเกดขน
่
่
่
้
ิ
ึ
้
ี
ิ
ึ
่
้
ี
่
ี
ื
ี
ั
ทาใหเหนในอกแงมุมทเกยวของกบลกษณะทางสถาปตยกรรมและวิถชวตของคนในชมชน โดยเฉพาะปจจยตวแปรสําคญททา
ี
ั
ั
็
่
ี
ุ
ํ
ํ
ี
่
ี
ิ
ี
ั
่
ั
้
่
ํ
ี
ี
ํ
ื
้
ื
ั
ุ
ั
ิ
ิ
ี
ใหพนททากจกรรมและพฤติกรรมของผูอยอาศยภายในเรือนไทอสานปจจบนบางสวนเปลียนไป เชน พนททากจกรรมสวนตว
ั
่
ู
่
้
ี
่
ํ
ิ
้
ึ
ิ
ื
่
่
ี
ึ
(Private Space) พนททากจกรรมกงสวนตว (Semi-Public Space) พนททากจกรรมกงสาธารณะ (Semi-Public Space)
่
ั
ื
ํ
่
ื
ึ
้
ี
ํ
ื
่
ิ
่
่
และพนทสาธารณะ (Public Space) เปนตน และเมอพนทกจกรรมและพฤติกรรมเปลียนสวนหนงทาใหลักษณะทาง
ื
้
ี
่
่
ั
ู
สถาปตยกรรมและผังพนภายในเรือนบางสวนเปลยนตามพฤตกรรมไปดวย เชน รปทรงหลงคา พนทบรเวณชานเกย ชานแดด
ี
ิ
ื
้
ิ
้
ื
่
ี
ํ
็
ื
ุ
้
้
็
็
ึ
ฮานแองนา เรือนครว บนใด และพนทเกบของบรเวณใตถนเปนตน และจากประเดนปญหาทีพบในครงนจงทาใหพบประเดน
ั
่
ี
ิ
่
ั
ั
ี
ํ
้
้
้
ื
ึ
ชองวาง (gab) ทมีความนาสนใจทจะศกษาและทาความเขาใจ เพอดการเปลียนแปลงพนทกจกรรมและผังพนเรอนไทอสานใน
่
้
ื
่
ี
่
ู
ํ
ี
ื
ี
่
ี
ื
่
ิ
้
ั
ํ
ึ
้
ั
ั
ุ
ชมชนเทศบาลเมืองเขมราฐ จงหวดอบลราชธาน ดงนนในเบืองตนจงไดทาการแบงกลุมตัวอยางตามลักษณะโครงสรางได 2
ั
ี
ุ
ั
กลุมหลัก คอ กลุมเรอนเกา และกลุมเรอนววฒนาการ โดยเรมจากการศกษาขอมลและการทบทวนแนวคิดทฤษฎีและ
ื
่
ู
ิ
ึ
ื
ิ
ื
ี
วรรณกรรมทีเกยวของดงน ี ้
่
ั
่
ี
่
2. แนวคิด ทฤษฎีและวรรณกรรมทเกยวของ
ี
่
ี
ิ
้
้
ั
ึ
่
ึ
ั
ุ
ี
่
ิ
งานวจยครงนเปนสวนหนงของงานวจยเชงคณภาพทมงเนนการศกษาและทําความเขาใจ รวมกบการวิเคราะห
ุ
ิ
ั
ั
เปรยบเทยบเพอใหเหนปจจยการเปลียนแปลงพนททากจกรรมและผังพนเรอนไทอสานทัง 2 กลุมวามการเปลียนแปลงไป
่
ั
ี
ิ
ี
ื
่
ื
้
่
ื
ี
็
้
้
ื
ํ
ี
ี
่
ื
ั
ั
อยางไร เนองจากปจจยอะไร การศกษาในครงนจงไดกาหนดขอบเขตในการศกษาเฉพาะกลุมเรอนสําหรบการพกอาศยทม ี
ั
ึ
ี
ึ
ึ
้
่
้
ื
ี
ํ
ั
ั
่
ู
ื
้
่
ู
ั
ิ
ื
้
ื
่
ิ
ิ
ความสมบรณในขอมลเชงลึก และความเชอมโยงในลักษณะทางประวตศาสตรสถาปตยกรรมเรอนพนถนในเขตพนทชมชน
ุ
่
ี
ื
ิ
ุ
ั
ั
ิ
้
ั
ั
ั
ื
ี
ุ
เทศบาลเมองเขมราฐ จงหวดอบลราชธาน โดยยดแนวทางความสําคญของการวจยเชงคณภาพ จากการตงคาถามตาม
ํ
ึ
่
ึ
ั
ี
ื
้
วตถุประสงค ดวยวธการศกษาในการใชเครืองมอเปรียบเทยบจากการทบทวนวรรณกรรม และการกําหนดขอบเขตพนทศกษา
ี
ึ
ื
่
ี
ิ
ิ
ั
่
ี
ี
ิ
ของกลุมตวอยาง โดยการเชอมโยงวตถประสงค แนวคด ทฤษฎ และตัวแปรทไดมาเปนกรอบแนวคดในการศกษาดงตอไปน ี ้
ั
ื
่
ุ
ั
ึ
155