Page 169 - The 10th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 169
ี
้
ื
่
ิ
่
้
ื
่
่
ี
ตารางที 3 แสดงผลการศึกษาทางสถาปตยกรรม พนทเปลียนแปลง และขอบเขตพนทกจกรรม
ิ
กลมเรอนววฒนาการ ประเภทเรือนรวมสมัยทรงเทศบาล H7
ื
ั
ุ
้
้
ื
ลกษณะทางสถาปตยกรรม พนทพบการเปลยนแปลง ผงการเชือมโยงพนทกจกรรม
่
ั
่
่
ั
ิ
ื
่
ี
ี
ี
ู
่
ั
ี
ทมา: ผวจย (2562)
ิ
ั
ี
ิ
ั
้
ื
ี
้
ื
ี
ื
้
ผลจากตารางท 5.1 พบวาเรอนไทอสานดงเดมหลังคาทรงปนหยา [H1] มลักษณะเปนเรอนไมชนเดยวยกพนสูง
่
ี
ี
่
่
้
ื
ั
ื
ี
ื
้
เปนเรอนไทอสานทนยมสรางตามแบบเรอนภาคกลาง มชวงหางระหวางแนวเสา 3 ชวง พนทชนบนประกอบไปดวย เรอน
ี
ื
ี
ิ
ี
่
้
ื
ื
ี
ุ
ี
่
้
ั
ี
ิ
ํ
นอน หองพระ ชาน (เซยหนาบาน) ชาน (เซยดานหลัง) เรอนครัว ใตถนเปนพนทโลง/ขอบเขตพืนททากจกรรมสวนตว ไดแก
็
ุ
ื
้
[2] ชาน (เซยหนาบาน) [3] หองเกบของบริเวณชาน (เซยหนาบาน) พบเปนพนทปรบปรงใหมผนงปดลอมเปนหอง [4] ชาน
ั
่
ี
ี
ี
ี
ั
้
ึ
่
้
้
่
ี
ี
ื
ุ
ื
ั
ี
้
ี
ื
ั
ู
้
ั
ํ
ื
หนาหอง [5], [7] โถงนอนภายใน พบเปนพนทปรบปรงมบางสวนถกรอผนงออกทาใหมพนทกวางขนใชเปนพนทนอนสําหรบ
่
ี
ั
ี
ั
้
ั
ื
่
ี
ิ
คนภายในครอบครว [6] หองพระ พบเปนพนทใชรวมกบกจกรรมการนอนของคนภายในครอบครัวมความทบซอนในการใช
ี
่
้
ื
ั
ั
่
ี
้
ี
ื
้
ื
ุ
่
ี
ี
้
ั
ี
่
ี
ื
พนท [8] ชาน (เซย) [9] ครว พบมการปรบปรงพนทรวมกบชานแดดในอดต โดยการยอพนทใหมขนาดเล็กลงมีพนทใชรวม
ี
ั
ื
้
็
้
้
ื
่
ู
ิ
่
ิ
้
ี
่
ี
่
ี
ื
้
ึ
้
็
ุ
เชน พนทเตรยมปรุง เกบอาหาร เกบอปกรณครว [10] หองนา พบเปนพนทเพมเตมขนมาอยพนทีชันบนของตัวบานภายหลัง
ํ
่
่
ุ
ึ
ุ
ั
ี
่
ี
้
ื
ิ
่
ั
่
ั
ิ
่
ี
ี
ั
้
ื
้
ี
ื
มการปรบปรงพนทครว [11] พนทซกลาง พบเปนพนทเพมเตมภายหลังมการปรบปรงพนทครว/พนททากจกรรมกงสวนตว
ื
้
ั
ั
้
ี
ิ
ํ
ี
่
ื
ี
ุ
ไดแก [1] บรเวณพนทใตถนเรอน เปนพืนทใชรวมกบแขกเปนพนททบซอนทีมความยืดหยน [2] ชาน (เซย) หนาบาน เปน
ี
่
้
ี
่
่
ี
่
ี
ั
ื
้
ุ
้
ื
ิ
ื
ั
ั
ึ
ิ
่
ื
ี
ื
ั
่
ิ
่
ี
้
้
้
ี
พนททบซอนใชทากจกรรมการรบแขกมความยดหยน/พนทกจกรรมกงสาธารณะ ไดแก [0] บรเวณพืนทวางภายในเขตรัว เปน
ุ
่
ี
้
ิ
ํ
ื
ิ
้
ี
พนททบซอนใชทากจกรรมรวมกบแขกมความยืดหยุนสง
ื
่
ํ
ั
ู
ั
ี
ผลจากตารางท 5.2 พบวาเรอนเกยประยุกตแบบมใตถน [H4] เปนเรอนไมยกพนสูงมลักษณะโครงสรางท ่ ี
ื
้
ี
ุ
ื
ื
ี
ี
่
ื
ววฒนาการจากรูปแบบเรอนเกยไทอีสานดงเดิม มีชวงหางระหวางแนวเสา 3 ชวงเสา ชนบนประกอบดวย เรอนนอน โถงชาน
ั
้
ิ
ื
ั
้
ั
ํ
้
ื
่
ั
้
ี
ั
้
ํ
ื
่
ี
ุ
ี
ภายใน (ชานเกยในอดต) เรอนครว และหองนา ใตถนเปนพนทโลงบางสวน ขอบเขตพืนททากจกรรมสวนตว ไดแก [2] หอง
ิ
ื
ื
่
ิ
ุ
เกบของใตถนเรอน พบมพนทตอเตมสําหรบเกบของ [3] พนทซกลาง [4] ชาน ระเบยงครัว พบเปนพนทตอเตม [5] พนท ี ่
้
ี
้
ื
็
่
ื
ี
ี
้
ี
้
ื
็
ั
ิ
ี
ั
่
ื
ื
้
เตรยมปรุง เกบอาหารครัวสมัยใหม พบเปนพนทตอเตม [6] หองนา [7] ครว พบเปนพนทตอเตม [8] โถงชานภายใน พบเปน
้
้
ํ
็
ี
ี
่
่
ี
ิ
ั
ิ
ั
ุ
ี
่
ุ
ิ
ี
ื
ี
ื
ั
้
ี
ื
ี
่
่
้
พนทตอเตมจากการรือพนทชานแดดและโถงใตถนเรือนมการใชงานทบซอนของคนภายในครอบครว พนทมความยดหยน [9]
้
้
ื
่
ี
ั
ิ
ื
ึ
ั
่
ั
่
ี
ี
่
หองนอนใหญ [10] ระเบียงบนใด/พนทกจกรรมกงสวนตว ไดแก [1] บรเวณพืนทใตถน พบเปนพืนททบซอนทใชรวมกบแขก/
่
้
ุ
้
ั
้
ี
ิ
ั
ิ
ี
้
พนทกจกรรมกงสาธารณะ ไดแก [0] บรเวณพืนทวาง ลาน เขตรัวพบเปนพนททบซอนทใชรวมกบแขก
้
่
ิ
ี
่
ี
่
้
่
ึ
ั
ื
้
ื
่
ี
ื
้
ี
ื
่
ื
ึ
ี
ผลจากตารางท 5.3 พบวาเรือนเกยประยุกตแบบมพนทปดลอมครงปนครงไม [H6] เปนเรอนไมยกพนสูงมลักษณะ
่
ึ
่
ี
ู
ี
่
้
ี
้
ิ
ี
่
โครงสรางทมววฒนาการจากรปแบบเรอนเกยอสานดังเดม มีชวงหางระหวางแนวเสา 3 หอง ชันบนประกอบดวย เรอนนอน
ื
ั
ื
ิ
ู
้
ี
ี
ชานเกย ชาน ระเบียง หองเกบของ พนทีใตถนเรอนเปนพนทปดลอม มลักษณะเปนหองโถงใหญนยมใชเปนพนท ่ ี
ื
้
็
ิ
ุ
ื
้
่
ี
ื
ื
้
้
อเนกประสงค สาหรับนงนอน พกผอน หรอรบแขก บางสวนถกกนเปนหองนอน พนทเกบของ ครว และหองนา ขอบเขตพืนท ่ ี
ื
ํ
ื
้
ํ
้
่
ี
่
ั
้
ั
็
ั
ั
ั
ู
ื
้
ํ
้
้
็
็
่
ั
ํ
ั
้
้
ั
ั
ิ
ี
ทากจกรรมสวนตวชนลาง ไดแก [1] โถงนอนชนลาง [2] พนทเกบของชนลาง [3] หองนอนเล็ก [4] หองเกบของ [6] หองนา
่
ี
ิ
ิ
ํ
่
้
ี
ั
้
ู
้
ี
่
ื
ื
้
ื
พบวาพนท 1, 2, 3, 4, 5, 6 เปนพนทตอเตมผนงกออฐฉาบปนทงหมด/พนททากจกรรมสวนตวชนบน ไดแก [7] หองเก็บของ
ิ
ั
ั
้
ั
160