Page 68 - The 12th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 68

ุ
                                                                  
                                  4.  สถาปตยกรรมนาเกลือสมทร ประกอบดวย
                                                           ่
                                                ี
                                                                                                      ่
                                                         ู
                                                              ่
                                                       
                                                                                                      ั
                                         
                                     4.1  ยงเกลอ มแผนผังเปนรปสีเหลียมผืนผา ยาวขนาดประมาณ 50-70 เมตร หลังคาทรงจว มฝารอบ 4
                                                                    
                                         ุ
                                             ื
                                                                                                         ี
                                                                
                                                                  
                                            
                                       ั
                               
                                                          ู
                   
                                               
                                                                                
                                                                               ู
                                                                                        ่
                                                                                        ื
                                                                                          
                                                                                                        ั
                                                                                                    ้
                                                                               
                  ดานทำประตูทางดานสกัด หวและทายดานละ 1 ประต โครงไมสรางอาคารเปนไมอยดานนอก เพอชวยในการรับนำหนกของเกลือ
                                                      
                  ทดนมาจากดานใน ฝาของโรงเก็บเกลือสวนใหญเปนฝาไมไผผาฟาก วสดมุงหลังคาเปนใบจาก
                   ่
                    ั
                                               
                   ี
                                                     
                                                                      ุ
                                                           
                                                                    ั
                                                                               
                                                                                                              ั
                                     4.2  บานพักเกษตรกรนาเกลือ เปนเรือนไทยภาคตะวันออก ตัวเรือนมีที่พักอาศัยแบงเปนสวนสำหรบ
                            ั
                                             ่
                                 ั
                                             ี
                                          ั
                  นอน สำหรับพกอาศย และครัว วสดุทใชสวนใหญเปนวสดจากธรรมชาติ หลังคามงจาก หญาคา หรือทางมะพราว สวนผามกจะใช 
                                                                             ุ
                                                                                                           ั
                                                            ุ
                                                      
                                                                                    
                                                          ั
                                                                                                  
                                                       
                                               
                         ื
                                        
                                
                                            
                                                 ั
                  ใบจากหรอใบมะพราว บางแหงทำเปนฝาขดแตะ (ภรณี จำปาทอง, 2012)
                         3.2  การอนรกษและพฒนาพนทภูมทศนวฒนธรรม
                                                 ี
                                  ุ
                                   ั
                                                       
                                               ้
                                               ื
                                     
                                                    ิ
                                          ั
                                                     ั
                                                        ั
                                                 ่
                             3.2.1  กฎบตรประเทศไทยวาดวยการบรหารจดการแหลงมรดกวฒนธรรม ไดกำหนดหลักการในการอนรกษเอาไว  
                                      ั
                                                                            ั
                                                 
                                                   
                                                                                                           
                                                           ิ
                                                                                                        ุ
                                                                                                         ั
                                                               ั
                                                                                     
                  15 ขอ แตในการวจยนจะเลือกเพยงบางกรณีทสามารถนำมาประยุกตใชกบการอนรกษและพฒนาพนทดงกลาวไดมีดงตอไปน
                                                                                                        
                                ั
                                                                      
                                                                                     ั
                                                                                          ื
                                                                                                
                               ิ
                                                                                                      ั
                     
                                                                                
                                          ี
                         
                                                                                                    
                                                                              ั
                                                                                            ี
                                                    ี
                                                                                             ั
                                                    ่
                                                                                                            ี
                                                                             ุ
                                                                                                            ้
                                                                    
                                  ้
                                                                                            ่
                                                                       ั
                                  ี
                                                                                          ้
                                                                    ี
                                                                                  ู
                        1.  ในการอนุรักษแหลงมรดกวัฒนธรรมทียังมประโยชนใชสอยอยอยางตอเนื่อง การเสริมสรางหรือตอเตม
                                                                 ่
                                                                                                               ิ
                                                                                     
                                                                                                            
                                                                                       
                                                                                                     ่
                                                                                      ื
                                                                                   
                                                                                                    
                                                                                         
                   ่
                     ี
                     ่
                                                                                                         ิ
                                                                                                         ่
                           ึ
                  สิงทจำเปนขนใหมสามารถทำไดเพอความเหมาะสมในการใชงาน โดยไมจำเปนตองสรางใหเหมอนสวนของเดิม แตสิงทเพมขนใหม 
                                         
                           ้
                               
                                                                            
                                                                      
                                                                                                           ้
                                                                                                           ึ
                                                             
                                           ่
                                                                                
                         
                                                                                                       ี
                                                                                                       ่
                                           ื
                                                            
                   ้
                                                      ้
                  นนจะตองกลมกลน และไมทำใหมรดกวัฒนธรรมนนดอยคาลงไป
                       
                   ั
                               ื
                                                      ั
                                     
                                         
                                                         
                                  2.  การดำเนินการอนุรักษมรดกสิ่งกอสรางพื้นถิ่น ใหคำนึงถึงการพัฒนาหรือความเปลี่ยนแปลงที่ไมอาจ
                                                     ่
                           
                  หลีกเลี่ยงได และลักษณะเฉพาะทางวัฒนธรรมทีสืบทอดมาของชุมชน โดยงานที่ตอเติมบนสิ่งกอสรางหรอในบรเวณชุมชนพืนถน
                                                                                                   ิ
                                                                                                              ิ
                                                                                                            ้
                                                                                              ื
                                                                                                              ่
                                                            ้
                                                                 ี
                                                            ั
                                                                 ่
                                                                            ั
                  นนควรเคารพคุณคาทางวฒนธรรมและลักษณะตามแบบดงเดิมทผสานกลมกลืนกบสภาพแวดลอมทางวฒนธรรมและทางธรรมชาต  ิ
                                    ั
                   ้
                   ั
                                
                                                                                            ั
                  แนวทางในการปฏิบัต ไดแก การวิจัย บันทึกจัดเก็บขอมูล สงเสรมใหมีการสืบสานระบบการกอสรางและทักษะฝมือชางพื้นถิ่นใน
                                                                 ิ
                                  ิ
                  ทุกระดับ อาจใชวัสดุใหมที่ไมเปลี่ยนแปลงการแสดงออกของภาพลักษณ ผิวสัมผัส รูปทรง ไปจากโครงสรางและวัสดุของเดิมท ่ ี
                      ื
                      ่
                  สืบเนองมา
                                                                               ี
                                           ั
                                                                            ึ
                                                                          ึ
                                  3.  การอนุรกษมรดกวัฒนธรรมใด ๆ ก็ตามจะตองคำนงถงวถชีวิตชุมชน ที่สอดคลองกบสภาพโดยรอบและ
                                                                              ิ
                                                                                                 ั
                  ภูมิทัศนวัฒนธรรม ในฐานะที่เปนสวนประกอบสำคัญที่มีผลตอการดำรงอยู การเปลี่ยนแปลงในคุณคา และลักษณะเฉพาะของ
                  มรดกวัฒนธรรม
                                                                               ิ
                                                                                                   ี
                                                                                    ้
                                                              ั
                                                                  ั
                                                                                              
                                                                 
                                          ุ
                                                                                       
                                           ั
                        4.  การอนรกษสภาพโดยรอบและภูมิทศนวฒนธรรมควรดำเนนการตังแตการจัดใหมระเบยบ กฎหมายและ
                                             
                                                                                               ี
                              ี
                                                            ่
                                                                   ิ
                                                                                                   ่
                                                            ี
                                                                                                
                                       ุ
                                                      ั
                                          
                                                             ี
                                        ั
                  ระเบียบเฉพาะ มแผนการอนรกษแผนการบริหารจดการทมประสิทธภาพ การกำหนดขอบเขตโบราณสถานตอเนองและเขตกันชน
                                                                                                   ื
                  รอบบริเวณแหลงมรดกวัฒนธรรม หรือมาตรการอื่น ๆ เพื่อรักษาคุณคาทางวัฒนธรรมและลักษณะเฉพาะของแหลงมรดก
                                                                      ้
                                                                        ่
                                                                        ี
                                                                      ื
                                                      ิ
                   ั
                                                   ่
                          ้
                                                   ี
                  วฒนธรรมนัน ตลอดจนการจำกัดผลกระทบทจะเกดขนจากการพฒนาพนท (ICOMOS Thailand, 2011)
                                                                 ั
                                                         ึ
                                                         ้
                             3.2.2  แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาต แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ไดกลาวถึงแนวคด
                                                                                                              ิ
                                                                 ิ
                                            ่
                                                                                      
                                                                
                                       
                                    ั
                                            ี
                   ิ
                                          ั
                                   
                                                                                                        ุ
                                                                                                       ุ
                                                         ้
                                                                      ิ
                                                                                        
                                                ่
                                                                                                                
                                                         ั
                  คดเศรษฐกิจสรางสรรค ตงแตฉบบท 10 ซง ณ ขณะนน ยงไมไดใชแนวคดเศรษฐกิจสรางสรรคเปนแนวทางในการระบยทธศาสตร
                                                ึ
                                                            ั
                                                                  
                                    ้
                                               
                                                            ั
                  การพัฒนา ตอมาเศรษฐกิจสรางสรรคไดถูกระบุอยางจริงจงลงในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555-
                                        
                                                                                                              ั
                  2559) และใชแนวคิดเศรษฐกิจสรางสรรคในระบุยุทธศาสตรและแนวทางการพัฒนาประเทศ ซึ่งสืบเนื่องมาจนถึงปจจุบน
                  ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) ที่ยังคงใชแนวคิดเศรษฐกิจสรางสรรคในการระบ ุ
                                                                                                               ่
                                                                                                               ิ
                                                                                                            
                  ยุทธศาสตรการพัฒนาประเทศ ซึ่งขอมูลจากสำนักบัญชีประชาชาติ ไดแสดงใหเปนวาอุตสาหกรรมสรางสรรค ไดสรางมูลคาเพม
                                                                                                         ิ
                                                                                                            
                                                 ็
                                                                  
                                                                                                       ั
                  ใหกับเศรษฐกิจไทยไดสูงมาก สะทอนใหเหนวาความคิดสรางสรรคสามารถเปนฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจ และผลักดนสนคาและ
                                                                                  ั
                                                                                                            ี
                  บริการใหมีมูลคาสูงสุดในเวทีการคาโลก ซึ่งการพัฒนาบนฐานชองความคิดสรางสรรคน้น เปนการพัฒนาโดยใชแนวคิดที่เรยกวา
                                                                                                               
                  “เศรษฐกจสรางสรรค” (Creative Economy)
                                 
                         ิ
                         3.3  เศรษฐกจสรางสรรค
                                      
                                   ิ
                             3.3.1  ความหมายของเศรษฐกิจสรางสรรคในไทย มการใหคำนยามไว ดงน
                                                                                   ี
                                                                   ี
                                                                               
                                                                           ิ
                                                                                   ้
                                                                                 ั
                                                            
                                                                                                          
                                                ี
                        1.  พระราชกฤษฎกาจดตังสำนักงานสงเสริมเศรษฐกิจสรางสรรค ไดกำหนดนิยามของเศรษฐกิจสรางสรรค
                                                     ้
                                                   ั
                                                                                
                  ไววา “การพัฒนาระบบเศรษฐกิจโดยใชความคิดสรางสรรคบนฐานขององคความรู ทรัพยสินทางปญญา และการศึกษาวิจย
                                                                                                               ั
                     ่
                                                                                                   ่
                             ั
                                      ้
                                      ื
                           ั
                     ื
                                                                                                      
                                                                                                            ั
                                                                                                   ื
                                                  ิ
                                                            ่
                   ่
                                                                                            ั
                   ึ
                                                                                       ี
                                                                    
                  ซงเชอมโยงกบวฒนธรรม พนฐานทางประวัตศาสตร การสังสม ความรูของสังคม และเทคโนโลยและนวตกรรม เพอใชในการพฒนา
                                                             ู
                                                       ึ
                   ุ
                                                                                    
                  ธรกจและการผลิตสินคาและบริการในรปแบบใหมซงสรางมลคาเพมทางเศรษฐกิจหรอคณคาทางสังคม”(พระราชกฤษฎีกา, 2018)
                                                                                 ุ
                                                          
                                                       ่
                     ิ
                                  
                                                                  ิ
                                              ู
                                                                  ่
                                                                               ื
                                                               
                                                      
                                                                                ิ
                                  2.  สำนกงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกจและสังคมแหงชาต (สคช.) ไดใหนยามของเศรษฐกจสรางสรรค
                                                                 ิ
                                                                                          
                                        ั
                                                                                                       ิ
                                                                                           ิ
                                                                                        
                                                                                                          
                                                                     
                                                                
                                            ิ
                                ั
                                                 ้
                   
                    
                                                 ื
                  ไววา “แนวคดการขบเคลือนเศรษฐกจบนพนฐานของการใชองคความรู (Knowledge) การศกษา (Education) การสรางสรรคงาน
                                    ่
                           ิ
                                                                                    ึ
                                                                                                             
                                                                                                       
                                                             
                                                                59
   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73