Page 126 - The 9th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 126
จากตารางดังกล่าวเม่อนาตาแหน่งท่เกิดการบังของกลุ่มอาคารทางด้านเหนือของกระแสลมจนส่งผลต่อกลุ่มอาคาร
�
ี
ื
�
ื
ั
ึ
ู
�
ี
�
้
ั
ิ
�
ี
่
ิ
ึ
้
ทางด้านใต้ของกระแสลมทาให้อย่ในช่วงไม่รู้สกหรอสงเกตได้ว่ามกระแสลมทเกดขนซากน จะเห็นว่าแม้มีตาแหน่งการเกด
ี
ี
ี
พ้นท่ท่มีกระแสลมตาซา แต่กระแสลมจะส่งผลกับตัวอาคารในทิศท่แตกต่างกันเน่องจากลักษณะของการบังของกลุ่มอาคาร
ื
ื
�
้
่
�
ึ
�
ื
ท่อยู่ทางด้านเหนือของกระแสลมทามุมท่ต่างกัน และเม่อนาพ้นท่ส่วนตรงกลางของผังโครงการซ่งเป็นบริเวณท่เกิดรูปแบบ
ี
ื
ี
ี
�
ี
ดังกล่าวซากันมากท่สุด จะเห็นว่าอาคารในบริเวณน้ท่ได้รับผลกระทบในแต่ละทิศมีจานวนท่แตกต่างกันดังแสดงในตารางท่ 3
ี
�
�
้
ี
ี
ี
ี
ตารางที่ 3 แสดงจานวนอาคารบริเวณกลางผังโครงการท่ได้รับผลกระทบจากการบังกันของกลุ่มอาคารจนกระแสลมอยู่ในช่วง
ี
�
ไม่รู้สึกหรือสังเกตได้ว่ามีกระแสลม
ทิศทางลมที่มา จ�านวนอาคารที่อยู่ จ�านวนอาคารที่อยู่
กระท�ากับ ความสัมพันธ์ของกลุ่มอาคารบริเวณกลางผังโครงการ เหนือกระแสลม ใต้กระแสลม
ผังโครงการ กับกระแสลมประจ�าทิศ (หลัง) (หลัง)
(N)
2 20
(NE)
8 14
(E)
4 18
(SE)
0
22
ผลงานวิจัยในโครงการประชุมวิชาการระดับบัณฑิตศึกษา
119 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สจล.