Page 58 - The 10th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 58
ั
้
ู
ั
ี
ึ
ึ
ั
ื
จากการศกษาสามารถจําแนกรปแบบของเรือนพกอาศยในพนทศกษาออกเปน 2 กลุมใหญ ดงรายละเอียดตอไปน ้ ี
่
ิ
5.1 กลุมสถาปตยกรรมแบบดงเดม
้
ั
ํ
ั
ไดแก เรอนไมแบบดงเดิม พบในเมองลําปาง จานวน 4 หลง ดงรายละเอียดตอไปน ้ ี
ื
ื
ั
ั
้
ั
ี
ื
้
ิ
ู
ู
1. ประวตความเปนมาของเรือน เรอนสวนใหญถกปลกสรางในชวงป พ.ศ. 2398-2455 เรอนรปแบบนพฒนา
ื
ั
ู
๋
ี
่
ิ
่
ิ
มาจากเรือนเครืองผูก ประกอบดวย ชาน เตน หองนอน เรอนครัว สวนมากจะอาศัยชางผูชํานาญในทองถน เรยกวา “สลา”
ื
ื
่
ื
ื
เปนผูปลูกสรางเรอน เนองจากการปลูกสรางเรอนดวยไมจรงทงหลังเปนงานใหญตองอาศยแรงงาน เงน เวลา และชางผูม ี
ิ
้
ิ
ั
ั
ี
ความรูและความชานาญมากกวาเรือนเครองผูกของชาวบาน สวนใหญเปนเรอนของกลุมเจานายทองถน คหบดีชาวพมาททา ํ
่
่
่
ื
ื
ิ
ํ
ิ
กจการปาไม
่
ั
ํ
ั
้
ื
ิ
้
ื
ู
ี
2. รปทรง มีลักษณะเปนเรือนยกสูงจากระดบพนดนประมาณ 2.00 เมตร สวนพนเฉลียงมกมการลดระดบตา
ั
้
ี
ั
ิ
ื
กวาพนเรือนประมาณ 15-20 เซนตเมตร ปลูกสรางดวยไมจริงทงหลัง มขนาด 2 หองนอนขนไป หองนอนเจาของเรือนมขนาด
ี
้
้
ึ
กวาง 2 ชวงเสา (มีระยะของชวงเสาราว 2.80-3.00 เมตร) ขนาดยาว 2-4 ชวงเสา (มระยะของชวงเสาราว 1.80-2.20 เมตร)
ี
ํ
ั
่
้
ํ
ั
หลังคาเรอนประธานเปนหลังคาทรงจัววางเรยงตอกนตามแนวนอน จานวน 2-4 หลัง โดยปลายชายคาใชเปนรางนาสําหรบ
ื
ี
้
ุ
ิ
ุ
ื
ั
ื
ํ
ํ
ระบายน้าฝน มีความชนของหลังคาประมาณ 40 องศา มงดวยวสดจาพวกกระเบองดนขอ สวนเรอนครวเปนหลังคาทรงจว
ั
่
ั
ั
ั
้
ี
มความชนของหลังคาประมาณ 40 องศา มุงดวยวสดุจาพวกกระเบองดนขอ
ั
ิ
ํ
ื
3. การจดวางพนทใชสอยภายในเรอน พบวา รปทรงของหลังคามผลตอการจดวางพนทใชสอยภายในเรือน
ั
ื
ั
ื
ู
่
่
้
ื
้
ี
ี
ี
่
่
้
ื
สามารถจําแนกตามลักษณะการใชงานออกเปน 4 สวน ไดแก 1) ชาน เปนพนทเปดโลง ไมมหลังคาคลุม ทาหนาทเชือมพนท ี ่
่
ี
้
ํ
ี
ี
ื
ี
่
้
ั
ิ
้
ี
ั
สวนตาง ๆ ภายในเรือนเขาดวยกน ชานทตงอยบริเวณหนาเรือน มกมบนไดขึนเรือนทอดขนจากบรเวณ “ขวงบาน” จงมบนได
ั
ั
ึ
ี
ั
ึ
้
ู
่
ี
ึ
ื
ู
ั
้
ึ
้
ขนเรอนตงอยภายนอกและไมมีหลังคาคลุม บรเวณรมชานดานใดดานหนงจะมหงสูงจากระดบพนชานประมาณ 80-100
ั
้
ื
ิ
้
ิ
ิ
้
ํ
้
ํ
ํ
้
เซนติเมตร สาหรับวางหมอนาดมพรอมทังกระบวย เรยกวา “ฮานนา” หากฮานนาตงอยบรเวณชานโลง จะสรางเรือนขนาด
่
้
้
ิ
ํ
ู
ี
ื
ั
่
้
ื
่
ี
ึ
๋
็
ั
้
ี
ื
เล็กทมหลังคาคลุมไว 2) เติน เปนพนทถดจากชาน มลักษณะเปนพนทกงเปดโลง เนองจากมการกนฝาเตมดานเดยว หรอใช
ี
ี
่
่
ี
ื
ั
่
้
ื
ี
ี
ื
้
ี
้
ฝาเฟยมทสามารถเปดไดตลอดแนวเสา มีหลังคาคลุม พนเตนยกระดบสูงกวาระดับชานประมาณ 10-20 เซนติเมตร มเนอท ี ่
ื
ั
่
ิ
๋
ี
ํ
้
่
ํ
ั
้
ื
ี
่
ประมาณ 3-5 ชวงเสา ทาหนาทเปนพนทอเนกประสงค ไดแก นงเลน รบประทานอาหาร รบแขก ทาบญเลียงพระในงานมงคล
ั
ุ
ี
ั
่
ื
ื
ี
ี
ั
ี
่
้
่
จดงานศพเมอคนในเรอนถงแกกรรมลง 3) หองนอน เปนหองทมฝาปด 4 ดาน มลักษณะผายออก ถอเปนพนทสวนตวของ
ื
ึ
ื
ี
่
ั
้
ื
้
่
ี
ั
สมาชิกในครอบครวเทานน มีการแบงพนทใชสอยออกเปน 2 สวนยอย คอ สวนนอน และสวนเก็บของ โดยใช “ไมแปนตอง”
ั
ื
่
ํ
ั
วางตรงกลางตวเรอนตามแนวยาวเปนตวแบงพนททงสองออกจากกน ทาหนาทลดความยาวของไมกระดาน และใชเปน
ี
่
ั
ี
้
ื
ั
้
ื
ั
ั
ั
ื
้
ื
่
่
ิ
ื
ื
ทางเดิน เพ่อไมใหเสียงดงรบกวนสมาชิกในครอบครัว 4) เรือนครัว หรอ เรอนไฟ เปนพืนทีแบบกึงเปดโลงคอ ดานทตดกบชาน
ี
่
ั
ู
้
ั
ั
ิ
้
ี
ั
ี
้
ุ
ื
จะไมมีฝากน ตงอยทางทิศตะวนตก มักวางตังฉากกบเรอนนอน เรือนบางหลังม “แมเตาไฟ” มลักษณะเปนกระบะไมบรรจดน
ั
และขเถาอดแนนเอาไวสําหรบกอไฟเพอทาอาหาร เหนอแมเตาไฟมการนําไมเนอแข็งยดติดกับขอและแปหัวเสาของเรือน
ื
ํ
ึ
้
ี
ื
ื
ั
้
ี
่
ื
่
สําหรับเกบขาวของ เรยกวา “ควัน”
็
่
ี
รปท 5 รปแบบเรือนไมแบบดงเดิม ในเมืองลําปางและเมองแพร
ู
้
ั
ู
ื
่
ี
ั
ิ
ทมา: ผูวจย (2562)
ี
่
49