Page 47 - The 9th Graduate Integrity Conference Proceeding
P. 47

th
              Research Proceedings in The 9  Graduate Integrity Conference: April, 2018







             1. บทน�า

                                   ี
                    ปรากฏการณ์พ้นท่ทางานร่วมเป็นทางเลือกใหม่ท่เปิดให้มีการทางานร่วมกันระหว่างคนแปลกหน้าและการสร้าง
                                ื
                                    �
                                                                     �
                                                           ี
             ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม รวมถึงช่วยให้เกิดการสนับสนุนทางสังคมแก่ผู้ใช้บริการได้ดีกว่าการท�างานโดยล�าพัง การศึกษานี้จึงมี
                                                                                        ี
                         �
                       ื
             จุดประสงค์เพ่อทาความเข้าใจต่อความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมกายภาพและการบริหารจัดการท่มีต่อการเกิดแรงสนับสนุน
             ทางสังคมในพื้นที่ท�างานร่วม โดยมีค�าถามวิจัยหลัก คือ ท�าไมแรงสนับสนุนทางสังคมจึงเกิดขึ้นในพื้นที่ท�างานร่วม
                    เป็นทราบกันดีแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อม พฤติกรรมของมนุษย์ และบริบททางสังคมนั้นมีลักษณะ
             เป็นพลวัต และในประเด็นหลักของการศึกษาน้ คือการเกิดปฏิสัมพันธ์ และบริบททางสังคมท่ถูกกาหนดไว้โดยนโยบายการบริหาร
                                               ี
                                                                                   �
                                                                                ี
             จัดการพื้นที่ท�างานร่วมที่จะน�าไปสู่การเกิดแรงสนับสนุนทางสังคม
             2. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

                    2.1  พื้นที่ท�างานร่วมคืออะไร ใครเป็นผู้ใช้ และได้ประโยชน์อย่างไร

                                           ื
                                 ี
                                  ี
                        การศึกษาท่เก่ยวข้องกับพ้นท่ทางานร่วมมักใช้นิยามของเว็บไซต์ Coworking.com (www.coworking.com, 2018)
                                              ี
                                               �
                                                      �
                                                    ี
                                                               �
                                 ี
             ท่ว่า “ผู้มีอาชีพอิสระและผู้ท่มีความยืดหยุ่นกับสถานท่ทางาน ได้มาทางานในพ้นท่เดียวกัน และส่งผลดีกว่าการท�างานเพียงลาพัง
                                                                         ี
                                                                      ื
                                                                                                        �
              ี
             เน้นที่ความเป็นชุมชนและความยั่งยืน” โดยค�าส�าคัญอยู่ที่ว่า “การเป็นชุมชน” ซึ่งแตกต่างจากการท�างานในรูปแบบเดิมและ
             ได้รับการพิสูจน์โดยการศึกษาที่ผ่านมาในช่วง 5 ปีนี้ ได้แก่ การศึกษาของนักวิจัยในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (Spinuzzi, 2012.
             Moriset, 2014. Grandini, 2015. Grandini, 2015. Markel, 2015. Parrino, 2015. Gerdenitsch et al., 2016) พบว่า
             พฤติกรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ท�างานร่วมนั้นสอดคล้องกับนิยามดังกล่าว
                        ผู้ใช้งานส่วนมากในพื้นที่ท�างานร่วมจะมีเวลาท�างานที่ยืดหยุ่นตามที่  Spinuzzi  (2012)  ได้กล่าวไว้  ซึ่งได้แก่
             ผู้ประกอบอาชีพอิสระ  พนักงานลูกจ้าง  ที่ปรึกษา  เจ้าของกิจการ  และส�านักงานขนาดเล็ก  เป็นที่น่าสังเกตว่าโดยปกติแล้ว
             ผู้ใช้บริการจะไม่ต้องการส่อสารกับคนแปลกหน้า แต่จะสามารถโต้ตอบและทาความรู้จักกับผู้ใช้บริการคนอ่นได้หากมีสภาพแวดล้อม
                                                                                        ื
                                                                   �
                               ื
             ทางกายภาพที่เหมาะสม (Bilandzic and Foth, 2014)
                        ประโยชน์ที่ผู้ใช้บริการพื้นที่ท�างานร่วมจะได้รับมีอยู่ 5 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ 1) มีปฏิสัมพันธ์จากผู้รับบริการ
             คนอื่นทั้งพูดคุยเรื่องทั่วไปและแบ่งปันประสบการณ์ 2) ได้รับการตอบรับที่ช่วยตรวจสอบความถูกต้องให้กันและกัน 3) เกิด
             ความไว้วางใจระหว่างผู้รับบริการทาให้สามารถส่งต่องานและความรับผิดชอบได้ 4) เกิดการเรียนรู้จากการแบ่งปันข้อมูลข่าวสาร
                                       �
             ระหว่างผู้รับบริการท�าให้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น และ 5) ได้หุ้นส่วนในสายอาชีพถ้าผู้รับบริการมีสายวิชาชีพที่ใกล้เคียงกัน
             (Spinuzzi, 2012)

                    2.2  แนวคิดแรงสนับสนุนทางสังคม

                        ทฤษฎีแรงสนับสนุนทางสังคมมุ่งทาความเข้าใจกระบวนการสร้างความช่วยเหลือกันระหว่างบุคคลในสังคม
                                                   �
                                                        �
                                                                    ี
             ซ่งส่งผลในการบรรเทาหรือเยียวยารักษาความเครียด  นาไปสู่สุขภาพท่ดีของบุคคล  อย่างไรก็ตามผู้วิจัยจะทบทวนแนวคิด
              ึ
             และสาเหตุของการเกิดแรงสนับสนุนทางสังคมในบทความน้พอสังเขป  เพ่อใช้เป็นกรอบการศึกษาทาความเข้าใจระหว่าง
                                                           ี
                                                                      ื
                                                                                          �
             สภาพแวดล้อมกายภาพ การบริหารจัดการ และการเกิดแรงสนับสนุนทางสังคมในพื้นที่ท�างานร่วม
                                                            ี
                                                                                                       ั
                        แรงสนับสนุนทางสังคมเป็นทรัพยากรอย่างหน่งท่บุคคลรับรู้ว่ามีอยู่หรือได้รับจากบุคคลอ่น และมีลักษณะท้งเป็น
                                                          ึ
                                                                                         ื
             ทางการและไม่เป็นเป็นทางการ (Gottlieb and Bergen, 2009) ทั้ง Cohen & Mckay (1984) และ Mattson & Hall (2011)
                                                  ื
                                                                                      ื
             ให้ความเห็นว่าแรงสนับสนุนทางสังคมในเชิงการส่อสารท้งทางวจนภาษาและอวจนภาษา ช่วยให้ผู้อ่นสามารถรับมือสถานการณ์
                                                       ั
                           �
                                              ึ
                       ึ
                                                       ี
             ทางลบได้ดีข้น  ทาให้บุคคลรู้สึกเป็นส่วนหน่งและเป็นท่เคารพในสังคม  แม้เพียงแค่การรับรู้การมีอยู่ของแรงสนับสนุนเช่นน  ้ ี
             ก็จะส่งผลในทางบวกให้กับบุคคลได้
             Vol. 9                                        40
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52